top of page
  • Writer's pictureALIS

รถไฟลอยน้ำชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์การเดินทางฟังเรื่องราวบนรางคู่ขนานผ่านเขื่อนน้ำที่ยาวที่สุดในไทย

Updated: Oct 11, 2020

ชีวิตในแบบที่เราคงไม่ได้ใช้มันบ่อยๆ เท่าไหร่ เลยอยากเก็บเอามาเล่าให้ใครก็ได้ฟัง … ตั๋ววันสุดท้าย เที่ยวสุดท้าย รอบสุดท้ายของปี และ ที่นั้งโบกี้กลางขบวนยาวๆ กับการท่องเที่ยวรถไฟไทย มันจะพาเราเคลื่อนผ่านไปด้วยกัน วันนี้เราสองคนพี่น้องเลือกที่จะข้ามผ่านมันไปให้ได้ คือ การเดินทางไปในสถานที่ที่เรายังไม่เคยไป ด้วยการเดินทางโดยสารไปกับเจ้าขบวนยาวๆ ที่เรียกว่า “รถไฟ” กับผู้คนมากมายที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันค่ะ หนีแม่กระโดนขึ้นรถไฟเที่ยว ให้รถไฟได้เคลื่อนขบวนเล่าเรื่องราวยาวๆ บนรางคู่ขนาน ในหนึ่งวันไม่ไกลจากกรุงเทพถึงลพบุรี เพื่อฟังเรื่องราวผ่านขบวนรถไฟที่เคลื่อนผ่านกลิ่นไอแดดระเหยผิวน้ำ สัมผัสเสน่ห์เมืองร้อนที่มีสายลมช่วยบรรเทา นั่งปล่อยใจชมวิวเขื่อนป่าสัก เขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ไปให้รู้ว่า สายน้ำ สายลม แสงแดด กลิ่นขี้หมู กลิ่นอึ กลิ่นฉี่ ระหว่างทาง บอกอะไรกับเราบ้าง. .

“รถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” Floating Train on The Dam เริ่มต้นของการเดินทาง ด้วยความมะโนเพ้อฝัน “ Spirited Away : 千と千尋の神隠 ภาพที่เห็นกับภาพที่ฝันไปไกล ถึงกลับมะโน ความจริงสอนเราว่าการเดินทางไม่คาดหวังมันสวยงามกว่าที่ฝัน จะว่าโชคดีก็ได้แหละ ปีนี้เป็นปีแรกน้ำแล้งมากไปหน่อย ไม่เป็นแบบภาพในความคิดที่คาดหวัง อย่าง Spirited Away : 千と千尋の神隠し (ที่มะโนในใจ 555 ) เราเลยโฟกัสไปที่ระหว่างทาง ความชุมชน ความทรงจำ ความจริงใจ ความมีน้ำใน ผู้คน และ สถานที่แทน แล้วเราก็ เน้นไปที่อาหารกับการเดินทางด้วยรถไฟ แต่พอเอาเข้าจริง เราว่าทุกอย่างก็ผิดคาดแหละ แต่ก็สวยไปอีกแบบ เหมือนปลอบใจตัวเอง 55555 5555 แต่วิวแบบนี้เป็นปีแรกเลยนะที่ได้เห็น ก็สวยดีนะ แทนที่ผืนน้ำภาพในหัว ด้วยพื้นดินที่มีชีวิต คนตกปลา ฝูงวัว ฝูงควาย แอ่งน้ำขังเล็กใหญ่ พื้นดิน ต้นหญ้า ที่นองน้ำขัง ที่ยังรอระเหยไปกับไอแดด มันดูมีความหมาย และให้เรื่องราวในใจ ปีแรกของเราก็แล้งเลยเว้ย ... ปีหน้ามาใหม่ ค่อยว่ากัน ไปสัมผัสกันว่าสวยอีกแบบ ก็ดีนะ เป็นแบบไหน ไปคับผม ^ ^

อยากให้ใครสักคนได้เติมความทรงจำร่วมกันผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพและตัวหนังสือ เพราะในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้อง … เดินทางไปด้วยกันเสมอไป เพื่อจะเก็บความคิดถึงเป็นเรื่องเป็นราวกลับมาแชร์ คนที่รอฟัง แลกเปลี่ยน ส่งต่อความทรงจำต่อเรื่อยๆ ไป ก็พอ แล้ววันนึงที่พร้อมเมื่อเราได้มาพบเจอกัน

เราค่อยเดินทางต่อไปด้วยกัน . . ..


ก่อนที่การเดินทางจะเริ่มต้นขึ้น เราไปจองตั๋วกันก่อนค่ะ เริ่มจากก่อนวันที่จองตั๋วเลยเนอะ


สาเหตุที่เรากระโดดขึ้นรถไฟออกเดินทาง จุดเริ่มต้นมาจากแอดนี้เลย บวกกับจินตนาการที่ล้นๆ ที่คิดไปถึง Spirited Away : 千と千尋の神隠し (มะโน555) ความมะโนบวกความบ้าของเราสองพี่น้อง จริงๆ เราคิดวางวันที่จะไปตั้งแต่ พย. จนมาถึง ธ.ค. ก็ไม่ว่างตรงกัน จนวันที่ตกงานตอนเดือนมกราคม เอาว่ะก็แค่รอน้องว่าง สุดท้ายแล้ว ก่อนที่หมดช่วงท่องเที่ยวตอนปลายมกราคม น้องก็เตือนเราโทรจองก่อนหมด 2 วันได้ เป็นวันที่ 24 เราโทรไปแล้วเค้าไม่มีจองทางโทรศัพท์ ให้เราไปจองที่สถานีรถไฟใกล้บ้าน ซึ่งเหลือ 2 วัน หรือ 2 ขบวนที่จะพาเราเดินทาง เป็น 26 และ 27 แต่เค้าให้ไปจองวันที่ 26 เหลือที่นั้งประมาณ 43 ที่ เราเลยตัดสินใจกันว่าพรุ่งค่อยไปจองที่สถานีหัวลำโพงด้วยกันถ้าเหลือก็ไป

Spirited Away : 千と千尋の神隠し (มะโนในใจ 555)เก็บไว้ในใจเจอกันปีหน้านะสายน้ำ ^ ^

มาดูกันว่าวันนี้เราจะได้ตั๋วสำหรับเดินทางพรุ่งนี้กันไมนะ Spirited Away : 千と千尋の神隠し (ความมะโนที่ไม่มีที่สิ้นสุด 555) มาดูกันว่าวันนี้เราจะได้ตั๋วสำหรับเดินทางพรุ่งนี้กันไมนะเนื่องจากเมื่อวานโทรไปเค้าให้เราต้องไปจองที่สถานีใกล้บ้านเมื่อวานยังเหลือรอบสุดท้ายยังเหลือ 43 ที่ วันนี้ไปวัดดวงกันปะ แล้วบ่ายวันที่ 25 เราไปจองตั๋วรถไฟลอยน้ำชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถามประชาสัมพันธ์เค้าบอกว่ามีเหลือ เย้ เย้เย้ เราจะได้ขึ้นขบวนสุดท้ายในวันพรุ่งนี้รถเทียบเวลา 7 นาฬิกา ที่นี่ ตื่นเต้นจัง จาก 43 ที่นั้งที่เหลือ บ่ายวันนั้นก่อนที่เราจะซื้อเค้าบอกตอนนี้เหลือ 22 ที่นั้งรับไหมคะ รับค่ะพร้อมเพียง

ได้ตั๋วมาแล้วก่อนกลับบ้านไปเตรียมตัวเดินทางวันพรุ่งนี้เช้าๆ เพราะกว่าเราจะมาถึงสถานีก็ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง เผื่อไว้ก็ออกจากบ้านสักตีสี่ครึ้งตีห้าอ่ะนะ วันนี้ถ่ายรูปเล่นที่สถานีกันหน่อยก่อนไปหาไรกินเติมพลังที่สยามแล้วค่อยกลับบ้านกัน เป้าหมายของเราวันนี้นอกจากซื้อตั๋วรถไฟก็ไปกินปลาส้มที่คิดถึงเนอะ

ก่อนไปขอถ่ายรถไฟขบวนสวยขบวนนี้หน่อยนะคะ เป็นรถไฟที่มีห้องอาหารในตัว ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าเจ้ารถไฟขบวนนี้ได้แล่นส่งเสียง ปู๊น ปู๊น ผ่านเส้นทางไหนมาบ้างแล้ว ยังคงใหม่และสวยงามทั้งภายนอกและในตัวขบวนเลย ไว้มาลองเดินทางกับมันดูบ้างดีกว่าถ้ามีโอกาสนะ

เมื่อได้ตั๋วแล้ว ก็แวะไปฟินกับแซลมอนซาซิมิ ที่ร้านโปรดกันหน่อยดีกว่า ร้าน MAGURO SUSHI ที่สาขาสยามวันค่ะ วันนี้ตั้งในมาแค่นี้แหละ มาละลายมันในปาก 5555

เติมของหวานนิสนึง ด้วยไดฟุคุถั่วแดงสตรอว์เบอร์รี่สุดโปรดดดดด กลับบ้านนอนค่ะ พรุ่งนี้เดินทางกัน

วันพรุ่งนี้แล้วจ้าาาาา ยังไม่เช้าเลยมาได้ครึ่งทางล่ะ อย่างที่บอกขบวนรถไฟเทียบที่สถานีหัวลำโพงเวลา 7 นาฬิกา ระหว่างทางเราทำไรรู้ม่ะ Search หาร้านโจ๊กแถวหัวลำโพงที่เปิด 6 โมง (เรื่องกินนี่มันเรื่องใหญ่จริงๆ 5555 )

มาถึง 6 โมง 40 ได้ อีก 20 นาที เราต้องรีบไปเซเว่นตุนสะเบียง แล้วรีบเดินข้ามไปยังสถานนีรถไฟและรีบเข้าห้องน้ำเรียบร้อยรอรถไฟขบวนที่จะไปชมวิวเขื่อนป่าสัก เค้าประกาศรถไฟมาล่ะ เดินไปถามประชาสัมพันธ์เค้าบอกรีบไปเร็ว คือ เพิ่งประกาศรถมาตะกี้ เราเข้าไปที่ฉานชราแล้ววิ่งค่ะ

วิ่งตั้งแต่โบกี้แรกไปถึง 9 ลุงนายสถานีบอกไม่ต้องวิ่งหนู ไม่ต้องรีบขนาดนั้น 555 ก็ข้างนอกเค้าบอกมาให้รีบ 5555 ถึงโบกี้ที่ 9 เราจองไว้ได้ที่โบกี้นี้ คือ ขบวนนี้น่าจะยาว 17 โบกี้ เพราะเราอยู่โบกี้ที่ 9 กลางขบวนเลยจ้า วิ่งมากลางขบวน ก็นั้งรอสักพักขบวนรถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีหัวลำโพง ไม่เรทเรื่องเวลาคือดี เดี๋ยวเค้าก็จะรับคนที่จองไว้ระหว่างที่ขึ้นจากสถานนีอื่นๆ อีกด้วยค่ะ ตอนแรกอ่ะเราดีใจมากคิดว่า คนที่นั้งเก้าอี้ตรงข้ามเราที่เราไม่รูจักจะไม่มาหรือมาไม่ทัน เราจองเก้าอี้คู่ได้ 7,8 โบกี้ 9 (บันทึกไว้ปีหน้าเราจะจองได้ที่เดิมอีกไหม ถ้าได้เราจะจอง 4 ที่ไปเลย 55555

แสงเช้าที่สดใสเริ่มสาดส่องพร้อมๆ กับการออกเดินทางของเรา บ๊าย บาย แสงเช้าเมืองกรุง . ..

เรื่องราวเริ่มเคลื่อนตัวไปบนรางแล้ว วิวระหว่างทางในกทม. ไม่สวยเท่าไหร่มีแต่ฝุ่น จากการก่อนสร้างนี่นั้นตลอดทาง กับควันรถค่ะ แต่การเดินทางแล่นเรื่อยๆ ไปบนรางคู่ขนาน ช้าๆ อย่างใจเย็น เช้าๆ ข้างนอกยังไม่ร้อนเท่าไหร่ พระอาทิตย์เพิ่งเริ่มทักทายเรา แสงเช้าที่ชอบถ่ายรูปให้น้องสาวซะหน่อยดีกว่า

แสงเช้าที่ละมุน แสงจริงตรงกับค่าของเลนส์ฟิล์ม Manul Lens ตัวเก่ง ตัวเก่า ที่มาใช้กับกล้อง ดิจิตอลของ Canon ในภาพตัวล่าง ได้แสงที่ตรงกับตาเห็นที่มีความละมุนของแสงเช้า

แลกกันคนละ Shot คนละแสง ภาพนี้น้องถ่ายให้ในมุมที่มืดกว่า แสงเข้าน้อยกว่า ในมุมตรงข้าม แต่มีแสงเข้านะ กับเลนส์มือหมุนตัวในภาพบนที่น้องถือ จะเป็น Nikon Manual Lens Fix 50mm เราเอามันมาใส่ Adapter ใช้กับ OLY หรือ Olympus เพื่อนตัวน้อยของเรา ด้วยความเป็นเลนส์ของดิจิตอล Contest ก็จะจัดกว่า เราเอาตัวนี้แหละไปเดินเก็บภาพบนขบวนหน่อยดีก่าแลกกัน ไปคับ …

การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเราเริ่มกดชัตเตอร์ แอบฟังเสียงที่แตกต่างไปกับสายลม แสงแดดอุ่นๆ ของยามเช้า เสียงนกจอแจที่ไม่รู้ร้องเพลงอะไร … แต่เผลอฮัมตาม รอยยิ้มเริ่มชัดเจนบนใบหน้าเสียงรอยยิ้มเริ่มดังกว่าเสียงหัวเราะ(ในใจ) ความทรงจำเบลอๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น .. . โครงเครงยังกะอยู่บนเรือ 55 5555 เบลอไปหมด ความทรงจำของฉัน 55 55

บนความทรงจำที่มีเพียงสายลมที่ปะทะความเร็วของขบวนรถวิ่งผ่าน กับพัดลมบนเพดาน บอกเลยว่าถ้าจะนั้งรถไฟกินลมชมวิวสัมผัสธรรมชาติ ต้องรถไฟพัดลมชิวๆ ได้ฟิวส์ เหนอะหนะระหว่างทางแถมด้วย ลม ฝุ่น แสงแดด กลิ่นเหงื่อ ไอดินผสมขี้หมู . . . .

แค่ต้นทางพอสนุกกับแสงเช้าก็ถ่ายภาพให้น้องสาวได้หลายภาพเลย .. ก็ออกจะโครงเครงหน่อยๆ บนรถที่ต่อขบวนเป็นหนอนตัวโตๆ เคลือนตัวไปบนราง ก็จะโยกเยกหน่อยๆ มึนๆนิดๆ

ถ่ายยังไงให้ดูเหงา ทั้งที่มีคนมากมายร่วมทางเต็มขบวน 55555 (ล้อเล่น) เริ่มเห็นสีเขียวแล้ว ก็หมายความว่า เราออกจากกรุงเทพสำเร็จล่ะจ้า (Bored Bangkok)

ระหว่างที่ขบวนรถไฟแล่นไปบนรางเพื่อเล่าเรื่องราวระหว่างทาง เราเองก็อยากออกเดินสวนทางกับขบวนรถ เหมือนเวลาหมุนย้อนกลับ คิดไปเอง 555 ไม่ใช่แค่ภายนอกที่มีเรื่องราว … จากภายในทุกก้าวที่เดินก็บอกเราเรื่องราวที่เรากำหนดมันขึ้นมาได้เอง ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือ หงุดหงิดเพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยรู้จักแค่บังเอิญต้องนั้งร่วมทางกัน 555

การเดินทางด้วยรถไฟ พัดลม รางคู่ ก็จะมอมๆ มอมแมม เยอะหน่อย แต่สนุกดีนะ

เอาจริงๆ เราอ่ะเรียนถ่ายภาพ เราจะได้นั้งรถไฟไปกาญกับมหาลัยทุกปี ไม่รู้ทำไหมไปแต่ที่เดิมๆ 55555

บนเส้นทางที่เราเลือกเดินทางด้วยการรถไฟไทย ที่เชื่อมโยงกับชุมชน อาหารที่มีขายบนขบวนรถไฟก็เช่นกัน …โดยจะมีชาวบ้านชุมชนต่างๆ ที่รถไฟแล่นผ่านจะมีจุดที่หรือสถานนีที่มีชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าหาบของขึ้นมาขายบนรถไฟ ทำให้ผู้คน การเดินทาง ที่คึกคักขึ้นมาจากความเงียบของของระหว่างทาง …ที่มีเพียงเสียงลมที่ปะทะความเร็วของเจ้าขบวนรถรางนี่ อาหารธรรมดาๆ ก็ชักชวนให้ผู้คนตื่นจากความง่วง …มาเป็นความหิวแทนในทันใดเลย … ความคึกคักขึ้นมาแทนที่ความงัวเงียที่ต้องเดินทางเช้ามากกกกก ก็กลับกลายเป็นความตื่นเต้นว่าจะมีเมนูอะไรขึ้นมาขายบ้างนะ ก็พอรู้แหละเพราะมักกุเทศของรถไฟได้เกริ่นไว้ล่ะว่ามีไรบ้าง แต่ก็ลุ้นๆ อ่ะ ว่าพ่อค้าหรือแม่ค้าจะหาบเมนูที่อยู่ในใจเราจะเดินผ่านมาถึงเมื่อไหร่ (เลือกไว้ในใจล่ะ ไม่บอกใคร 555) เริ่มต้นทุกการเดินทางเราว่าเป็นอาหาร นึกถึงของกิน แน่นอนแม้มันก็ธรรมดาๆ ไม่ได้ต่างอะไรจากในกรุงเทพๆ หรอก หรือ ตลาดๆ บ้านๆ อ่ะนะ แต่ที่พิเศษ คือ การได้สัมผัสความธรรมดาระหว่างทาง คือ ระหว่างทางเราจะ ได้สัมผัสเรื่องราวต่างๆ กันไป ตามมุมมองความคิด จินตนาการ อยู่ที่ว่าใครจะใช้สมอง หรือ หัวใจ กับการเดินทาง ก็ประมาณนั้นม้าง ตามความคิด มุมมอง หรือ ประสบการณ์ แต่เราอ่ะเก็บการเดินทางใส่กระเป๋าด้วยหัวใจ ให้ภาพเล่าเรื่องแทนล่ะกันเนอะ ว่า “มีเมนูอะไร!! ที่หาบขึ้นมาขายบนรถไฟพัดลมรางคู่ขบวนนี้บ้าง

สถานีอยุธยานี่แหละที่มัคคุเทศก์บอกไว้ว่าจะมีพ่อค้าแม่ค้าหาบของกินง่ายๆ ขึ้นมาขายประทังหิวให้เหล่านักเดินทางอย่างเรา ตื่นเต้นๆ มาล่ะมาล่ะ

ระหว่างรอผัดไทยก็มีนู่นนี่นั้นขึ้นมาขาย ทั้งคาวหวานน้ำดื่มครบเลยค่ะ แต่เราจะรอผัดไทยอย่างตั้งใจ คือ เราไม่อยากถือหิ้วอะไรแกะกะเพราะมีกล้องมาคนล่ะตัว เพราะฉะนั้นขาไปเราจะซื้อแค่กินหมด ขากลับค่อยว่ากันว่าจะหิ้วอะไรกลับบ้าน

อย่างแรกก็ขนมหวานเลยจ้า ห้ามใจไว้ไอ้หนูหมุ่ยหมุ้ย สายไหมอยุธยา ขนมสายไหมโปรด โปรดอีกล่ะ

มาถึงเมนูที่ต้องกินบนรถไฟ เราว่านี่เลย ข้าวเหนียวหมู ไก่ เนื้อ ย่าง ไม่งั้นไม่ถึงงฟิวส์ 5555 แต่คือ เราอยากกินเนื้ออ่ะ ข้าวเหนียวเนื้อ ข้าวเหนียวเนื้อ มาแล้ว มาแล้ว แม่ค้าหาบมาแล้ว แต่รอบนี้มีแต่หมูอ่ะไม่เอา ไม่เอาเค้าจิกินเนื้อ คือ จริงๆ เมื่อวานเตรียมจะเตรียมเนื้อเค็มกะข้าวเหนียวมาเอง แต่ไปซื้อแล้วเค้าไม่ขาย เลยอยากกิน 555 คนตรงข้ามเค้าซื้อหมูปิ้งล่ะ เดี๋ยวแอบท่ายของเค้าดีกว่า ไม่อยากมือเลอะ 55

มืดๆ หน่อย ทุกคนบังแสงผมหมดเลยอ่ะ ต้องรีบหน่อยเดี๋ยวแม่ค้าหาบหนีไป 5555

ตอนแรกเราคุยกันว่า เราจะกินผัดไทยห่อใบตองจ้า มักคุเทศบอกไว้ว่าจะมีหาบขึ้นมาค่ะ รอๆ เราตกลงกันล่ะ แล้วเราก็ลุกไปเดินถ่ายภาพบนรถ รอผัดไทยห่อใบตองจ้า กลับมาน้องสาวซื้อกระเพราไว้กล่องนึงอ่ะ คือมันช่วยชีวิตเราสองคนไว้เลย 5555 555 ต้องกินล่ะจ้า คือ หิวมากกกกก นั้งเฉยๆ ยังหิว ยิ่งตื่นเช้ามากยิ่งหิว … แล้วเจ้าขบวนที่วิ่งบนรางนี่จะหิวบ้างไมนะเริ่มวิ่งมาไกลห่างกรุงเทพฯ มาหลายสถานีล่ะ และ กว่าจะกลับมันก็จะเดินทางห่างจุดเริ่มต้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงปลายทางแล้วเราจะย้อนกลับมาบนเส้นทางเดินกลับสู่จุดเริ่มต้น …เป็นเรื่องปกติของการเดินทาง นั้งยาวๆ กันไป …

ได้เวลาเติมพลังล่ะ อย่างที่เห็นอ่ะต้องกินเจ้ากระเพราล่ะ ผัดไทยไม่มาเล้ยจ้าาาาา คือ ไม่มี ดีนะที่น้องซื้อข้าวกระเพราไว้กล่องนึง 5555 ไม่งั้นอดตายบนราง 5555 ล้อเล่นๆ จริงในกระเป๋าเรามีของเตรียมมาพร้อมเรื่องกินไม่พลาด แต่เราเก็บไว้กินขากลับดีกว่าเพื่อความรอบครอบ แต่กระเพราเผ็ดมากกินได้นิดหน่อย แต่อร่อยนะ กระเพราต้องเผ็ดถึงอร่อย เรื่องจริง แต่… กินได้นิดเดียวเอง (ก็ดันเป็นคนกินเผ็ดได้น้อยมากเวอร์) ผิดที่เรากระเพราไม่ผิด จริงอร่อยนะ

มะม่วงเป็นของชอบในการเดินทางเลย เวลาเมารถ หรือ รู้สึกไม่สดชื่น มึนๆ ช่วยได้นะ อันนี้เป็นมะม่วงมันมันอร่อยไง 55555 555

วิวระหว่างทางเริ่มสวยขึ้นเรื่อยๆ เมื่อท้องอิ่ม ใจก็เป็นสุข สายตาก็ใสปิ้ง มองอะไรๆ ก็สวยไปหมด … . . เก็บภาพกันไปยาวๆ เริ่มสายแดดก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีลมผ่าน ได้อยู่นะ หัวยุ่งมาก

ขบวนรถไฟเคลื่อนผ่านภูเขาหินลูกโตมากมายทั้งเขาหัวโล้น หรือ เขาที่มีป่าไม้ เทือกเขาที่ต่อกันยาวพอไปกับเส้นทางที่เราผ่าน

อยากแวะลงไปนั้งเล่นระหว่างทางนะ … แต่แค่คิดคงพอ 5555 ระยะทางยังอีกไกลสำหรับการเดินทางสั้นๆ ด้วยเวลาหนึ่งวันอ่ะนะ เก็บระหว่างทางได้เพียงผ่าน เอาเวลาไปทิ้งตัวที่ปลายทางเติมพลังและเดินทางกลับ นี่สินะการเดินทางสั้นๆ ที่เราต้องเข้าใจและใช้เวลาให้เป็น . .. ไม่ได้ให้อะไรสำคัญกว่ากัน แค่ปล่อยมันไปตามการเดินทางของเวลา . . .. ที่เค้าจัดไว้ให้สนุกที่สุด มีความสุขกับมัน หัวเราะ ยิ้มให้เต็มที่ เท่านี้ก็คุ้มแล้วเราว่างั้นนะ ^ ^

เล่าแม่ค้าพ่อค้าก็ยังอยู่กับเราบนขบวนรถไฟตลอดเส้นทาง ยังคงเดินไปมา ขายได้บ้างไม่ได้บ้างอ่ะนะ ใครมีเยอะ ก็ช่วยซื้อกันไป เรามีน้อยก็ประหยัดหน่อยซื้อแต่พอกินอิ่ม

มีแต่รูปน้องสาว ที่จริงคือเยอะมาก 555 5555 ทำใจให้ชิน ไม่ค่อยมีภาพตัวเอง

ขบวนรถไฟเริ่มแล่นเข้าสู่จุดชมวิวแล้ว น้ำแล้งเป็นอย่างที่มักกุเทศเกริ่นไว้ตอนกลางขบวนเลย ภาพที่เห็นกับภาพที่ฝันไปไกล ขั้นมะโน ปีนี้เป็นปีแรกที่ไม่มีน้ำ น้ำแล้งมากไปหน่อย ไม่เป็นแบบภาพในความคิดที่คาดหวัง อย่าง Spirited Away : 千と千尋の神隠し (มะโนในใจ 555 ) ถูกแทนที่ผืนน้ำภาพในหัวไปด้วย “พื้นดินที่มีชีวิต“ คนตกปลา ฝูงวัว ฝูงควาย แอ่งน้ำขังเล็กใหญ่ พื้นดิน ต้นหญ้า ที่นองน้ำขัง ที่ยังรอระเหยไปกับไอแดด มันดูมีความหมาย และให้เรื่องราวในใจ แต่พอเอาเข้าจริง เราว่าทุกอย่างก็ผิดคาดแหละ ก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ก็กลับสวยไปอีกแบบ และที่สำคัญปีนี้เป็นปีแรกของเรา และ วิวแบบนี้เป็นปีแรกเลยนะที่ได้เห็น ก็สวยดีนะ เหมือนปลอบใจตัวเอง 55555 5555 ปีแรกของเราก็แล้งเลยเว้ย ปีหน้ามาใหม่ ค่อยว่ากัน ^ ^

ถ้าแทนที่ด้วยภาพในเน็ต เราจะไม่ได้เห็นพื้นดิน ต้นหญ้า น้องวัวน้องควายวิ่งเล่นกับนกยางกินปลาที่บินร่อนไป ร่อนมา เหมือนอาบแสงแดดที่ร่าเริงของเวลาเที่ยงๆ

ภาพที่ได้เห็นมันก็คุ้มนะ ถึงความรู้สึกจะต่างกันไปบ้าง แต่เราว่ามันก็เป็นเส้นทางที่น่ารักดี

อิ่มท้องแล้ว ดื่มด่ำวิวกันต่อ ถึงจุดชมวิวที่จะได้ลงแล้ววววว เย้ เย้ เย้ … ลง 35 นาทีก็ลงน่าเนอะ ลงไปเก็บภาพกัน ช่วยๆ กันจำ ช่วยกันเก็บ ทั้งภาพ ทั้งความทรงจำ ใส่กระเป๋าเล็กๆ ในใจ แล้วไปต่อค่ะ

การเดินทางสั้นลงเรื่อยๆ แล้วก็จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ ที่ปีนี้ปีแรกที่เราจะได้ชมความสวยงามที่แตกต่างไป เราก็เดินทางมาสัมผัสมันปีแรกเหมือนกันนะ ปีที่น้ำแล้ง เห็นพื้นดิน ต้นหญ้า น้ำขังเป็นแอ่ง ที่ฝูงวัวควายนกกระยาง นกกินปลา ได้ออกมาใช้ชีวิต เห็นแล้วอยากลงไปตรงนั้นเลย อยากไปยืนแทนที่คนเค้าตกปลา ตกเป็นเหรอ เคยตกแต่ในเกมส์ 55555 แดดร้อนมาก จุดนี้ขบวนรถไฟจะจอดให้เราพร้อมคนมากมายทั้งขบวนลงไปเดินเล่น ถ่ายภาพชมวิวทิวทัศบนรางคู่ขนาน ประมาณ 35 นาทีได้ เจ้าขบวนยาวนี่ก็ได้พักด้วยกับการเดินทางยาวนานหลายชั่วโมงตั้งแต่เช้า ไปชมวิวกันไปคับ ร้อนมากมายเกินบรรยายเมื่อแดดใกล้เที่ยงวันเดินทางมาถึง

ฤดูแล้งที่เข้ามาแทนที่ฤดูหนาว ก่อนที่ฤดูร้อนจะเดินทางมาถึง (ไม่สิฤดูหนาวปีนี้ที่ไม่มีอยู่จริง เหมือนเราแค่ฝันไปอ่ะนะ 555)

(ไม่สิเราว่าฤดูร้อนอยู่กับเราเสมอเรารู้สึกได้ เพื่อนที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เหอะ)

สิ่งมีชีวิตต่างปรับตัว เพิ่งพาน้ำให้น้อยลงได้บ้าง . .. ถ้าให้มองในอีกมุมของนักเดินทาง ความงดงามที่ออกแบบไม่ได้ จากเขื่อนน้ำแหล่งใหญ่สายยาวที่สุด เหลือเพียงแอ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังคง มีความสำคัญ กับเหล่าสิ่งมีชีวิตบนบกที่มีพื้นที่ใช้ชีวิตกว้างมากขึ้น บนความร้อนที่มากองศาขึ้นเรื่อยๆ ไป ตามการระเหยของไอน้ำ

น้ำ น้อย แต่ก็ยังคง มี น้ำ . ....

แทนที่ผืนน้ำภาพในหัว ด้วยพื้นดินที่มีชีวิต คนตกปลา ฝูงวัว ฝูงควาย แอ่งน้ำขังเล็กใหญ่ พื้นดิน ต้นหญ้า ที่นองน้ำขัง ที่ยังรอระเหยไปกับไอแดด มันดูมีความหมาย ให้เรื่องราวในใจ ปีแรกของเราก็แล้งเลยเว้ย

บ๊าย บาย 35 นาที บายความเร่งรีบ และ ผู้คนมากมาย หมดเวลาจุดแวะชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เราต้องขึ้นกลับไปบนรถแล้วถึงจะยังไม่หายเหมื่อยตูดสักเท่าไหร่ อยากยืดเส้นยืดสาย ยืดแขน ยืดขา อีกสักนิดก็เหอะ แต่ต้องไปแล้วเราต้องเคารพกฎของการเดินทางและผู้เดินทางร่วมกันนะคะ ได้เวลาที่รถไฟต้องเคลื่อนขบวนต่อแล้ว อีกนิดก็เป็นอิสระแล้ววว ใกล้ถึงปลายทางล่ะ

ก่อนถึงปลายทาง เราได้พบระหว่างที่ไม่มีใครบอกเราได้ ความสนุกแบบไม่ได้คาดหวัง เนี๊ยะล่ะม้าง ที่เราเรียกสั้นๆ ว่า ”นักเดินทาง” ที่ใครๆ ก็อยากก้าวออกมา และ ออกเดินทาง นักเดินทางไม่ได้มีเหตุมีผลให้กับการเดินทางหรอก แต่มีเหตุผลให้ต้องกลับ . . . ต้องเดินทางกลับมาเพื่อเล่าเรื่องราวระหว่างทางให้ใครก็ได้สักคนได้ฟัง

และนี่คือ ระหว่างทางของเรา สถานนีแวะเล่น สถานีสุดท้าย ก่อนเดินทางไปถึงจุดชมวิวที่ปลายทาง ที่นี่มีคนมากมายที่เราไม่จำเป็นต้องรู้จักรอเราอยู่ เหมือนเป็นคนสำคัญเลย 5555 ลืมบอกสถานี “สถานีโคกสลุง” ค่ะ ขบวนรถไฟจะจอดเทียบรางที่สถานีแห่งนี้ประมาณ 30 นาที ถึงตาเราล่ะ ที่จะได้ลงไปทักทายชาวบ้านเค้าบ้าง ^ ^

หมูปิ้งร้อนๆ หอมกลิ่นไหม้เตาถ่าน ที่ไหนๆ ก็ต้องมีเนอะ

ไข่นกทา น่าอร่อยใช่ไมล่ะ อันนี้ล่ะนะ กินง่ายสุด อร่อยแน่นอน

กล้วยปิ้งน่ากินอ่ะ เอาหน่อยเนอะ

ชาวบ้านก็จะเอา ขนมบ้าง อาหารกินง่ายๆ ใส่กระทงบ้าง โฟมก็มี รอเราอยู่

ดูด้วยตาเข้าใจว่าเป็นขนมตาล แต่…เค้าบอกว่าเป็นขนมฝักทอง

คุณยายไม่ลงเหรอคะ 30 นาทีเลยนะ

เมื่อจอดแวะทักทายความคึกคัก ก็ขอลงหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นของกินที่ทานได้เลยมาขายนักท่องเที่ยวกันคะ ขายง่าย จ่ายคล่อง ในราคาที่ 20 บาท

คนเยอะอ่ะเน้นไปที่หาน้ำกิน แยกกันไปเดินเก็บภาพ หิ้วอะไรกลับมาคนละถุง สองถุง

มีผักด้วย สุดยอด …

ส่วนใหญ่ก็ราคา 20 บาท

จะมีชาวบ้านในชุมชนโคกสลุงไม่น้อยเลย มาเป็นพ่อค้าแม่ค้ายืนตากแดดทนร้อนรอขายของกินให้นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นของกินนะ ของกินง่ายๆ ในราคา 20 บาท ตามที่บอก อาหารร้อนๆ ขนมอุ่นๆ ใส่กระทงใบตอง บ้าง ถ้วยโฟมบ้าง น้ำดื่มคลายร้อนก็มี ความร้อนของอากาศ และ วันที่แดดแผดเผา เราขอพาคาเมะคุงพวกพ้องไปเก็บกินความทรงจำกันก่อนนะ เพื่อนเรากินความททรงจำเป็นอาหาร ขอตัวแยกกันเดินเก็บภาพแป๊บ 55555 คือ เราอ่ะไม่ได้ซื้อไรกันมากไปจากของกินกับน้ำได้เลย อุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าชาวบ้านที่มาตากแดดรอเราหน่อยล่ะกันนะคะ น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากการเดินทางเติมความสุขบางๆ เบาๆ ให้กับผู้คนที่เราผ่านไปพบเจอกันระหว่างทางที่มีโอกาสค่ะ ก็นะวันนี้รถไฟเที่ยวเขื่อนรอบสุดท้ายของปีแล้ว ผ่านวันนี้ไปชาวบ้านก็จะเหงาๆ หน่อย จะไม่มีนักท่องเที่ยวผ่านมา อีกรอบก็ปีหน้าเลย ความคิดถึงเบาๆ แบบคนไม่รู้จักกัน เพราะการเดินทางผ่านมา … . . .

ได้ไข่นกทามา น่าอร่อยใช่ไมล่ะ อย่างที่บอกอันนี้ล่ะนะ กินง่ายสุด อร่อยแน่นอน

อย่อยธรรมดาๆ แต่ดี คือ หิว กินไปชมวิวไป . . อีกนิดก็ได้ลงไปเดินเล่นแล้วอ่ะนะ …

ถึงจุดชมวิวล่ะจ้าาาาาา เหมื่อยตูดหนักมาก ก่อนถึงปลายทาง เราได้พบระหว่างที่ไม่มีใครบอกเราได้ ความสนุกแบบไม่ได้คาดหวัง เนี๊ยะล่ะม้าง ที่เราเรียกสั้นๆ ว่า ”นักเดินทาง” ที่ใครๆ ก็อยากก้าวออกมา

พอลงรถไฟ ถึงจุดปล่อยตัวล่ะ เค้าจะมีรถต่อให้ไปเที่ยวจุดต่างๆ ทั้งรถราง รถตู้ ไรงี้ แต่เราไม่รู้จะไปไหนดี ก็อยู่แถวๆ นี้อ่ะใกล้ๆ เขื่อน กลัวตกรถไฟขากลับ 55555 เพราะเรามาแบบไปกลับมันไม่ไกลมาก แต่คือก็นั้งเหมื่อยตูดอ่ะ หาไรกินถ่ายรูปแถวๆ นี้ก็พออีกไม่กี่ชั่วโมงรถไฟจะกลับหัวขบวนมารับค่ะ

หิ้วขนมไปหาของกินเพิ่ม ถ่ายภาพ ชมวิว ฟังเสียงลม มองคลื่นน้ำในเขื่อน และ ตากแดดให้อาหารปลากันค่ะ ไม่ได้วางแผนอะไรไว้สำหรับการเดินทาง อยากมาก็ตื่นเช้า วิ่งขึ้นรถไฟที่จองตั๋วไว้แล้วกับขนมของกิน ลูกอม น้ำดื่ม พกมาเต็มกระเป๋า จนหัวใจล้นเอ่อ … ไปค่ะ ไปกาน ไปกินให้อิ่มก่อน … แล้วอะไรอะไร ต่อก็ได้นะ ^ ^

ร้อนนนนนนน มากกกกก นี่เลยน้ำแข็งใสใส่นมเยอะ มันก็ดีแหละถ้าไม่คาดหวังว่าจะได้กินบิงซูเกร็ดหิมะ ตามภาพ เดิมไปอย่างไม่คิดเลย ฉันจะกินเกร็ดหิมะนมสดริมเขื่อน ไม่มีแบบในภาพเหรอคะ แม่ค้าบอกว่ามีแบบนี้แหละเอาไม เอาค่ะ (เกรงใจ) อากาศร้อนๆ กินนะไรต้องระหวังนะคะ เรากำลังเดินทางไกลกันอยู่ ก็ได้แค่เตือนตัวเองกับเพื่อนร่วมทางอ่ะนะ ความจริงมันทำใจได้ยากกกกก 55555

เมนูนี้ค่อนข้างไม่เหมาะกับการเดินทางไกลๆ อีกเช่นกันเนอะ 5555 แต่เค้าอยากกินอ่ะ อยากอุดหนุนคุณลุงคุณป้าที่รอรับออเดอร์ ไปส่งร้าน … รอนานอยู่นะกว่าลุงแกจะกลับมา

“ตำไทยไข่เค็มไม่เผ็ด” ก็สั่งไปจนได้ คือ ไม่รู้จะสั่งอะไร เพราะในมือก็มีของกินหิ้วลงมาที่ซื้อมาจากสถานีโคกสลุง

อันนี้หิ้วมาจากโคกสลุง คือ แข็งมากกกกก กินไม่ได้อ่ะ ปล่อยผ่านไป 20 บาท

ทอดมันก็หิ้วมาจากโคกสลุงเช่นกัน กินได้อยู่ แต่ไม่ร้อน เอาน่า …

สิ่งที่ไม่มีขายบนขบวนรถไฟ คือ ไอติม … ไปเถอะ ไปจากตรงนี้ กินพอล่ะ ไปถ่ายภาพกันค่ะ

วันที่เราเดินได้ แข็งแรง และ เติบโต ก็ยังคงมีอีกหลายชีวิตที่กำลังหัดเดิน หัดบิน และ พยายามที่จะเติบโต และ เอาตัวรอดในสังคม เจ้านี่ก็เช่นกัน หัดบินอยู่เลย .... ตกมาทักทายเรา ก็ยังพยายามด้วยตัวเองต่อไป พยายามเข้านะเจ้านกน้อย ^ ^

คือ ร้อนมากจุดนี้ เรากินอิ่มก็มีเวลาเดินเล่นอีก 2-3 ชั่วโมงได้ม้าง เราก็เลยพากันเดินเล่นเก็บภาพกันอยู่แถว ๆ ริมเขื่อนไม่ได้ไปไหนไกล รอเวลาที่ขบวนรถไฟจะกลับมารับเราอีกทีขากลับ อย่างที่บอกเป็นการเดินทางไปกลับ และ เราก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ แถว ๆ นี้ ถึงแดดจะร้อน แต่ก็ลมเย็นชิว ๆ ก็เลยปักหลักกันอยู่แถวนี้ วิวก็สวยดี สบาย ๆ มีห้องน้ำอยู่ใกล้ ๆ เดี๋ยวถ่ายภาพจนพอใจล่ะ ไปให้อาหารปลากันเนอะ แล้วค่อยกลับมาเก็บภาพต่อ ดูภาพกันไปยาวๆไม่รบกวนละ

นั้งชิวว์ ปล่อยใจริมน้ำ . . . ..

ให้ได้ยินเสียงลมพัดเป็น คลื่น น้ำ บาง บาง

ทบทวน เบา เบา แล้วค่อยกลับ . . . .. 🎶🎵🎻

ดอกไม้เล็กๆ ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า ที่เหมือนจะแห้งเหยี่ยวจนกรอบเพราะความร้อนของแสงแดดแผดเผา มันทำให้ความสดใส และ สวยงามของดอกไม้เล็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่หนามที่จะป้องกันตัว ดูสดใส สวยงามแบบเดียวดาย 555 555 ^ ^”

เห็นเจ้าปลาแล้ว แกเป็นใคร ชื่อไรๆ อย่าเพิ่งไปดิ หิวไหม … กินไรหน่อยไม … ให้อาหารปลากันค่ะ .. อยู่ร้อนๆ กันแถวนี้เนอะ เดินวนๆ ไป เดี๋ยวรถไฟก็กลับมา. . รับ ไม่รู้จะไปไหน นั้งปล่อยใจ กันชิวๆ ภาพก็จะเยอะแยะมากกกก อยู่ด้วยกันยาวๆ ไปค่ะ ไม่จบง่ายๆ แน่งานนี้ 555555

MOOD TONE COOL COOL

PANTONE WATER 🌊

THE ART OF WATER

น้ำเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ธรรมชาติแสดง

ทำให้จิตใจสงบ และ รู้สึกถึงความเย็นลง

เพียงเข้าใกล้ . . แม้ไม่ได้สัมผัสถึงผิวน้ำ

เพียงละอองเล็กๆ ก็รู้สึกดี … … . . . . .. .

. . . . . ค ว า ม ฝั น ก็เช่นกัน . .. . . . .


ในเวลาที่ผู้คนมากมาย มากความ

ค ว า ม ฝั น ก็ยังคงค้นหาเส้นทาง

ที่จะเดินไปด้วยกันได้ตลอด . . . .

แอบเก็บวิวฝั่งตรงข้าม 5555 กล้องเราไปได้ไกล …

ธรรมชาติการเดินทาง ยังคงเป็นความไม่แน่นอน เมื่อเราตัดสินใจออกเดินทางแล้วก็คงเพียงยอมรับความจริง ความสวยงามตามที่มันเป็น ไม่ว่าในเวลาไหน ธรรมชาติยังคงสวยงามในแบบที่มันเป็นแม้ถูกรบกวนด้วยจำนวนผู้คนที่มากจำนวนขึ้นในทุก ๆ วัน

นั้งกินลม ชมวิว ถ่ายภาพกันไป ก็ประมาณนี้ ต้องกลับแล้ว กาลเวลาจะหมุนย้อนกลับ นักเดินทางจะกลับไปที่จุดเริ่มต้นเสมอ กลับบ้านกันป่ะ

ลืมบอกไปว่ารถราง ชมเขื่อนก็หน้าตาประมาณนี้ค่ะ กี่บาทไม่แน่ใจไม่ได้ขึ้นเพราะคนเยอะ เค้าจะบอกว่าไปได้กี่รอบ รอบนี้กลับมาทันรถไฟนะ ไรงี้ น่าจะรอบละประมาณครึ่งชั่วโมงอ่ะนะ

อ่อนอกจากรถรางก็มีรถตู้ด้วยอยู่ด้านหน้าเราเดินเลยมาแล้ว รถที่เห็นจะอยู่ตรงริมน้ำที่มองไปเขื่อนไกลตามภาพที่ถ่ายข้างบนๆ อ่ะนะ เราอยู่เก็บภาพและให้อาหารกันแถวๆ นี้พอ 555 55

เมื่อถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับแล้วทุกคน นาฬิกาหมุนเร็วจัง วิ่งกันอีกล่ะคับผม ตอนที่กลับมาถึงรถ คือก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกอยู่แถวเขื่อนที่รถมาปล่อยแหละ ดูน้ำ ดูปลาดู นก เก็บภาพเล่นกันอยู่แถวๆนี้ แต่กลับมาคนขึ้นเยอะเกือบเต็มขบวนล่ะ วิ่งเลยจ้า แล้วขึ้นหัวขบวนเดินยาวมากลางขบวนเลย 55555 5 ต้องเก้าอี้ที่เรานั้งเหมือนคนจะมากันครบล่ะ พักนึงก็เคลื่อนตัวหลังเสียงเจ้าหน้าที่บอกคนครบแล้ว เคลื่อนขบวนได้ คือ รู้ได้ไงฟ่ะ ตอนนั้นยังเดินไม่ถึงโบกี้ตัวเองเลย 555 แอบสงสัย

กาลเวลาจะหมุนย้อนกลับ 5555 555 เราจะได้ชมวิวตอนที่เรามาอีกรอบแต่ออกมึนๆ นิดนึงเพราะขากลับหัวขบวนรถไฟเปลี่ยนเหมือนเราต้องนั้งหันหลังให้ด้านหน้าที่รถกำลังวิ่งไปสู่ปลายทางที่ต้นทางที่เราเดินทางมาด้วยกัน

ตอนกลับคือ หิวมากกก ดีนะที่เราเก็บสะเบียงไว้ในกาเป๋า ขากลับเป็นอาหารเซเว่นที่เตรียมมาอ่ะคับ มีประโยชน์มากกกก ขึ้นรถได้พักนึง เคลื่อนขบวนไปยังไม่ถึงไหนก็ซัดเบอเกอร์ก่อนเลยจ้า หิวจริงไรจริง ใช้พลังงานไปเยอะมากกกกก


ครั้งแรกกับการเข้าห้องน้ำบนรถไป ก็ไม่แย่นะ โอแหละ การเดินทางทั้งวันก็วนเวียนห้องน้ำบ่อยหน่อย โอกว่าที่คิด มีทั้งน้ำและทิชชู่ให้พร้อม แต่อะไรที่เราบ่อยออกมามันจะถูกทิ้งเป็นปุ๋ยบนรางเส้นทางนั้นๆ ที่ขบวนรถวิ่งผ่าน. . . เราก็ฝากเรื่องราวของเราทิ้งไว้บนการเดินทางไปกับรางคู่ขนานสู่ปลายทางลพบุรี

🚂 Floating Train on The Dam 🚞🚃🚃🚃🚃🚃

“รถไฟลอยน้ำชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” การเดินทางฟังเรื่องราวบนรางคู่ขนานผ่านเขื่อนน้ำที่ยาวที่สุดในไทย ประจำปี 2020 ปีที่แล้งที่สุดก็ว่าได้ ฤดูแล้งที่เข้ามาแทนที่ฤดูหนาว ก่อนที่ฤดูร้อนจะเดินทางมาถึง (ไม่สิฤดูหนาวปีนี้ที่ไม่มีอยู่จริง เหมือนเราแค่ฝันไปอ่ะนะ 555) (ไม่สิเราว่าฤดูร้อนอยู่กับเราเสมอเรารู้สึกได้ เพื่อนที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เหอะ) สิ่งมีชีวิตต่างปรับตัว เพิ่งพาน้ำให้น้อยลงได้บ้าง . .. ถ้าให้มองในอีกมุมของนักเดินทาง ความงดงามที่ออกแบบไม่ได้ จากเขื่อนน้ำแหล่งใหญ่สายยาวที่สุด เหลือเพียงแอ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังคงมีความสำคัญ กับเหล่าสิ่งมีชีวิตบนบกที่มีพื้นที่ใช้ชีวิตกว้างมากขึ้น บนความร้อนที่มากองศาขึ้นเรื่อยๆ ไปตามการระเหยของไอน้ำ น้ำ น้อย แต่ก็ยังคง มี น้ำ . ....


แทนที่ผืนน้ำภาพในหัว ด้วยพื้นดินที่มีชีวิต คนตกปลาฝูงวัว ฝูงควาย แอ่งน้ำขังเล็กใหญ่ พื้นดิน ต้นหญ้า ที่นองน้ำขัง ที่ยังรอระเหยไปกับไอแดด มันดูมีความหมาย ให้เรื่องราวในใจ ปีแรกของเราก็แล้งเลยเว้ย


ปกติความงดงามตามธรรมชาติ ภาพที่เห็นตามเวลาและสภาพอากาศที่เราออกเดินทาง ภาพที่คิดกับภาพที่ฝันอาจไม่ตรงกัน ความจริงสอนเราว่าการเดินทางไม่คาดหวังมันสวยงามกว่าที่ฝัน จะว่าโชคดีก็ได้แหละ ปีนี้เป็นปีแรกน้ำแล้งมากไปหน่อย 555 55 ไม่เป็นแบบภาพในความคิดที่คาดหวัง แต่พอเอาเข้าจริง เราว่าทุกอย่างก็ผิดคาดแหละ แต่ก็สวยไปอีกแบบ ก็อย่างที่บอกวิวแบบนี้เป็นปีแรกเลยนะที่ได้เห็น ก็สวยดีนะ ... ปีหน้ามาใหม่ค่อยว่ากันเนอะ

สรุปการเดินทางก็ประมาณนี้ ไม่ขาดไม่เกิน อะไรที่น้อยลง ก็จะมีอีกสิ่งเพิ่มมากขึ้นแทนที่ความสมดุล อยูที่เราปรับความรู้สึกได้มากน้อยแค่ไหนยังไง ... ช่วงที่มีเวลาก็พาความรู้สึกตัวเองออกเดินทางกันบ้างนะคะ


ได้ยินลุงป้าพ่อค้าแม่ค้าพูดว่า !! “คนกรุงเทพจะไม่มาเที่ยวเขื่อนป่าสักกันแล้ว” “ได้ยินใจหาย” คือ จริงๆ มันแค่หมดรอบของการเที่ยวผ่านทางการรถไฟของปีนี้ ใครขับรถไปเที่ยวแวะไปหาซื้ออาหาร ของฝาก ได้นะคะ พ่อค้าแม่ค้าเค้าเหงา 5555


อยากให้ใครสักคนได้เติมความทรงจำร่วมกันผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพและตัวหนังสือ เพราะในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้อง … เดินทางไปด้วยกันเสมอไป เพื่อจะเก็บความคิดถึงเป็นเรื่องเป็นราวกลับมาแชร์ คนที่รอฟัง แลกเปลี่ยน ส่งต่อความทรงจำต่อเรื่อยๆ ไป ก็พอ แล้ววันนึงที่พร้อมเมื่อเราได้มาพบเจอกัน เราค่อยเดินทางต่อไปด้วยกัน . . .. การผจญภัยในหนึ่งวันของอลิศ 55555555

アリスの冒険 1日 ☁☁ . . . ● ω ● ♬ ♫

。2020年01月26日。夜。

🔆#sunshinegirl 👩🏻‍🦳 #ontheway

📷#เลนส์มือหมุน Lens Fix 50mm📷⏳


📷🎬 #ITOURTIME #EATOURTIME

🍠🥤🥧🍮🍅🍊🍈🍰🍄🧀🥟🍫🍱🍜🍛🍣🍗

#การท่องเที่ยวรถไฟไทย #รถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

195 views0 comments

Comentários

Não foi possível carregar comentários
Parece que houve um problema técnico. Tente reconectar ou atualizar a página.
bottom of page