⛩🏮ไหว้ กิน เที่ยว ซับวัฒธรรมจีน ดินแดนตี๋หมวยเลือดมังกร ไปกับเลนส์มือหมุน📷🎞

วันที่ขอพาเพื่อนคู่ใจไปเดินเล่นดินแดนแห่งตี๋หมวยรับตรุษจีนที่ผ่านมากันหน่อย เพื่อนคู่ใจตัวนี้เห็นใครๆ เค้าก็เรียกมันกันว่า เจ้าเลนส์มือหมุน จริงๆ มันก็ คือ Manual Lens ที่มีมานมนาน น่าจะพอๆกะเยาวราชเลยป่าวว่ะ คือ มันชินมือมาก สำหรับเด็กกล้องฟิล์มอย่างเรา ดีต่อใจเวอร์ๆ ตัวที่มาด้วยกันจะค่อนข้างตีกรอบเรานิดนึง สำหรับบนเส้นทางแคบๆ เพราะนายคนนี้เค้าคือ Nikon Manual Lens Fix 50mm เราเอามันมาใส่ Adapter ใช้กับ OLY หรือ Olympus เพื่อนตัวน้อยของเรา ไปคับ เริ่มซึมซับวัฒนธรรมจีน เริ่มด้วยความสิริมงคล ด้วยการพาไปไหว้เจ้าเสริมสิริมงคลกันที่ ที่ ที่ ไหนดี ตามไปด้วยกันเลยค่ะ

เยาวราชที่ร่าเริงไปด้วย . .. วิถีชีวิตผู้คนบนถนนวัฒนธรรม . .. ความวุ่นวายที่มีเสน่ห์ของที่นี่พาเรามาเดินเล่นถ่ายภาพบ่อยๆ เลย เพราะมันมีแรงดึงดูดของเรื่องราวล่ะม้างเนอะ ใครเป็นอย่างเราบ้างนะ แต่ภาพแรกที่ลง อาจไม่ใช่ภาพแรกของเส้นทาง แต่เป็นภาพที่ชอบที่สุดของวันนี้ ไว้บอกอีกทีว่าถ่ายมาจากตรงไหน

วันนี้เรามาเริ่มกันที่นี่ก่อนเลยค่ะ นับว่าเป็นที่ ๆ มาถึงเยาวราชแล้วต้องไม่พลาด เข้าไปไหว้เจ้าเสริมสิริมงคลกันก่อนเนอะ

วัดเล่งเน่ยยี่ ( 龍蓮寺 ) หรือ วัดมังกรกมลาวาส เป็นที่โด่งดังมากโดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ผู้คนจะพากันมาไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล และ ไหว้แก้ปีชง สะเดาะเคราะห์ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน และ ชาวจีนรวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศต่างพากันแวะมา

วัดเล่งเน่ยยี่ ( 龍蓮寺 ) หรือ วัดมังกรกมลาวาส เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 หลายคนรู้จักวัดแห่งนี้ในนาม "วัดมังกร" ซึ่งคำว่า "เล่ง" หรือ " เล้ง " ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า “ มังกร “  ส่วน คำว่า “ เน่ย ” แปลว่า “ ดอกบัว ” และ คำว่า “ ยี่ ” แปลว่า “ วัด ” และ ได้รับพระราชทานนามจาก ร. 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้มีชื่อวัดอย่างเป็นทางการว่า " วัดมังกรกมลาวาส " จนถึงทุกวันนี้

วัดเล่งเน่ยยี่ ( 龍蓮寺 ) ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2414 (ล่วงมาแล้วประมาณ 130 ปีได้) ใช้เวลาก่อสร้างมากว่า 8 ปี จะแล้วเสร็จ ลักษณะของสถาปัตยกรรมจะเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวังหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ จากประตูทางเข้า เข้าไปจะถึงวิหารท้าวจตุโลกบาล จะเห็นเทพเจ้า 4 องค์ (ข้างละ 2 องค์) ในชุดนักรบจีนและถืออาวุธและสิ่งของต่างๆ กัน เช่นเครื่องดนตรี ดาบ พิณ เจดีย์ทรงสูง คนจีนเรียกว่า เรียกว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง" หมายถึงเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษา คุ้มครอง ทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธเจ้า พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ทั้งหมด 3 องค์ หรือ "ซำป้อหุกโจ้ว" พร้อมพระอรหันต์ อีก 18 องค์ หรือที่เรียกว่า "จับโป๊ยหล่อหั่ง" มาทางด้านขวามีเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ "ไท้ส่วยเอี๊ยะ" เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ "ไต่เสี่ยหุกโจ้ว" พระเมตไตรยโพธิสัตว์หรือ "ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว"ซึ่งคล้ายกับพระสังกัจจายน์ "กวนอิมผู่สัก" หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิม "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า" รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์

เข้ามาข้างในจะเห็นบรรยายกาศที่สวยงามไปพร้อมๆ กับ กลิ่น ควัน ธูป ที่นี่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในถนนเยาวราชใครไปใครมาก็แวะไหว้ขอพร วันนี้คนเยอะมากถึงจะเป็นวันธรรมดาก็นะ

ผู้คนมามายเดินทางมาไหว้เจ้าเสริมสิริมงคล สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง ที่วัดกันจำนวนมากแม้วันนี้จะเป็นวันธรรมดาๆ วันนึงก่อนตรุษจีน แต่ที่นี่อย่างที่บอกช่วงต้นปีคนจะมาไหว้แก้ชงกันมากมายเลยไม่แปลก

บรรยายกาศ ความอบอุ่น ผู้คนมากมายที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ พากันมาจุดธูป เตรียมพร้อมที่จะไหว้

หลากหลายวัยที่พากันเดินทางมาบนความศรัทธาและความเชื่อ

บางคนมากับคนรัก หลายคนพากันมากับครอบครัว ญาติมิตร

กลิ่น ควัน บนความศรัทธา และ ความเชื่อ สู่ความเป็นสิริมงคลและความอิ่มเอมใจของผู้เดินทางมาสักการะ

สู่ความสุขความสบายของ อากง อาม่า ป๊า ม๊า ครอบครัว และ ลูกหลาน

 "โรงเรียนมังกรกมลาวาส" โดย พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณเย็นเชี้ยว) รองเจ้าคณะใหญ่สงฆ์จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ผู้สถาปนาโรงเรียนมังกรกมลาวาสวิทยาลัย

เดิมทีโรงเรียนมังกรกมลาวาสวิทยาลัย เป็นตึกพิพิธภัณฑ์วัตถุธรรมของทางวัด ซึ่งใช้เป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมวินัยและประกอบศาสนกิจเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความเมตตาของ พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เจ้าคุณเย็นเชี้ยว) ได้ปรับเปลี่ยนอาคารดังกล่าวเป็นห้องเรียน และได้สถาปนาเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา โรงเรียนมังกรกมลาวาสวิทยาลัยในปี พ.ศ.2533

โดยพระคุณท่านได้มีจิตอนุเคราะห์เล็งเห็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจีนนิกาย และช่วยเหลือสังคมด้วยการรับกุลบุตรผู้มีความศรัทธาเข้าบรรพชา เพื่อรับการศึกษาพระธรรมวินัย คุณธรรม จริยธรรม ตามหลักพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจีนนิกาย

และส่งเสริมให้มีการศึกษาภาคบังคับ และการศึกษาขั้นพื้นฐานไปพร้อมกันด้วยเพื่อสร้างศาสนทายาทที่มีคุณภาพต่อพระศาสนาและสังคม 

อิ่มบุญ อิ่มใจ ซึมซับ บรรยากาศ และ วัฒนธรรมความเป็นจีนกันแบบสบายใจกันไปล่ะ

เมื่ออิ่มใจล่ะ ก็ออกไปหาอะไรอิ่มๆ ท้อง กินกัน เนอะ พอพูดถึงเรื่องกินก็หมดแรงเดินขึ้นมาเลยลองมาหาอะไรอร่อยเจ้าดังแถวๆ นี้กันค่ะ ทีนี้เลือกม่ายถูกกันเลยทีเดียว อาหารเยาวราชขึ้นชื่อมากก มีให้เลือกตลอดทางอีกด้วย

ลืมบอกไปว่าด้านหน้า และ ด้านในก็จะมีชุดไหว้เตรียมไว้ขาย ผู้ศัทธาที่เดินทางมาไหว้นะคะ

นี่คือมุมที่มองออกมาจากด้านในของวัดมังกร ที่เราตั้งใจจะถ่าย แล้วก็มีคนนี้เดินเข้ามา 55555 5555

ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าใคร แต่พอเอากล้องลง ระยะใกล้อีกหน่อย มาร์ช นั่นเองเค้ามาถ่ายรายการกันม้าง

^ ^” ที่สนใจ คือ เฟรมของฉันที่อยากได้ เฟรมนี้อ่ะนะ 555 555 ใครที่ชอบถ่ายภาพน่าจะมีความสุขกับการถ่ายภาพ เดินเล่น ไปอีกแบบในตัวค่ะ

แค่มองออกมาเจอร้านอาหารก็หิวจะแย่ล่ะ ติ่มซำก็เหอะ แต่ที่ในใจยังไม่ใช่นะคะ

การเดินทางก็ MRT วัดมังกร สะดวก ง่ายมากเลย ออกประตูไหนก็ได้ เดิน งง ๆ ออกมาเดี๋ยวก็ถึง 555

นอกจากความสวยของตัวโครงสร้าง ตรงใน MRT วัดมังกร มี Cafe’ เปิดใหม่ล่ะนะ ไปต่อกันดีก่า

ขนม เทศกาล การเดินทางของวัฒนธรรม

ขนมสำหรับไว้เจ้า เราจะได้เห็นบ่อยมากโดยเฉพาะ ช่วงตรุษจีน วันนี้ก็ค่อนข้างหาง่ายมากในเยาวราช เพราะวันที่ไปเดินถ่ายภาพเป็นวันก่อนวันจ่าย ของช่วงเทศกาลตรุษจีน 2063 หลังปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมา

บนถนนเยาวราชครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน และ วัฒนธรรมจีนที่โหมโรง

อันนี้มันเป็นอะไรที่ดูมีมนต์เสน่ห์ทางวัฒธรรมจีนเนอะ

บนถนนเยาวราชเป็นที่แน่นอนมากว่า ระหว่างทางก็มีความงดงามของวัฒนธรรมให้ได้ชื่นชม

และเก็บได้ไม่เบื่อเลย ไม่ว่าจะมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

สิ่งของต่าง ๆ มากมายวางขายหน้าตาเหมือน ๆ กันไป ในหลาย ๆ ร้านก็ว่าได้ 555 55

ถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นประเภทของอบแห้ง ของแห้ง อย่างพวกชา

เห็ด รากไม้ ผลไม้แห้ง เหี่ยวแห้ง เอ้ยล้อเล่นๆ

ส่วนใหญ่ก็เห็ด ถั่ว โบ๊กเกี้ย วุ้นเส้น บะหมี่ พุทราจีนอบแห้ง เท่าที่ดูออกอ่ะนะ

อยากกินโบ๊กเกี้ยเย็น ๆ สักถ้วยเลยอ่ะ

ในถุง คือ พุทราจีนอบแห้ง (Chiangmaitea) ข้าง ๆ เราไม่รู้มันคืออะไรเนอะ แต่ถ่ายภาพออกมาสวยมาก

แอบดูในถังคั่ว คั่ว คั่ว คั่ว คั่ว วน ไป วนมา วันไป และ วนมา มันดูมีเรื่องราวดีแหะ

มาถึงเจ้าเกาลัด ^"🌰"^

🌰เกาลัดจีน 栗 (Castanea mollissima) 🌰🌰

การเดินทางของเกาลัด การเดินทางของไม้ผลัดใบ 🌰🌰🌰 🍃🍂🍂 เกาลัดเป็นไม้ผลัดใบที่มีเรื่องราวผ่านวัฒนธรรมจีน อย่างที่บอกมันดูมีเรื่องราวไว้เก็บข้อมูลมาเขียนเพิ่มแยกไปอีกโพสต่างหากเนอะ

จากวัดเล่งเน่ยยี่ ( 龍蓮寺 ) หรือ วัดมังกร เดินไปทาง I'm Chinatown เราก็ผ่านร้านขนมจีนโบราณ อย่างไม่ตั้งใจ “ ร้านขนมเบ๊ไถ่เฮง “ เห้ยเค้ามีโกโก้ด้วยอ่ะ ขอสักแก้ว หลงเสน่ห์ความโบราณและความเป็นจีนแป๊บ แวะทักทายความสดชื่นก่อนค่อยเดินต่อ

🌰ร้านขนมเบ๊ไถ่เฮง ร้านขนมหวานโบราณของจีน 🍘🍪🥄☕️🍵🍶 เริ่มตั้งแต่ราคาชิ้นไม่ถึง 10 บาท ขนมเปี๊ยะก็มีไส้หลากหลาย 🌰🥜🥜 เราว่าแม่เราชอบไส้ฟักถั่ว แต่ส่วนตัวเราเองชอบแบบถั่วๆ มีเต่าปังด้วย ถั่วตัดๆ ใครเดินเยาวราชร้อนๆอยู่หรือใครมาไหว้เสริมมงคลที่วัดเล่งเน่ยยี่ ร้านอยู่ใกล้ๆ เลย แวะซื้อกลับไปฝากที่บ้าน ไว้กินเวลาขับรถก็ดี เค้ามีให้เลือกหลากหลาย หรือ ใครจะนั้งทานในร้านเค้าก็มีที่สำหรับนั้งทานคู่กับจิบกาแฟ ชา โกโก้ ฟินไปกับบรรยากาศร้านเล็กๆ

สารภาพ คือ ตามจริงจะเดินไปกิน Dino Mailo KAMU ใน i'm chinatown แต่เดินผ่านร้านนี้คิดนอกใจแป๊บ ด้วยสายตาที่ ปลาดเปลื่องของหมุยหมุ้ย หลงเสน่ห์ความโบราณสักครู่

นอกจากขนมเค้าก็มี espresso ☕️🥄ไม่ว่าจะ ร้อน เย็น สั่งมาทานคู่กับขนม ก็เข้ากันไม่แพ้เบเกอรี่ฝรั่งเลย ผ่านมาจะเห็นฝรั่งเข้ามานั้งฟินชิวว์ๆ กับกาแฟและขนมโบราณของจีน ร้านนี้แหละ ต้องมา “โกโก้เย็นดีมากกกกก”🍫🥛

คือ เราคนนึงอ่ะกาแฟเป็นสิ่งที่พิสูจน์รสชาติให้ไม่ได้ เพราะไม่กินเลย เป็นคนที่ไม่กินกาแฟเลย แต่คนก็เดินมาสั่งเยอะนะ เค้ามีถั่วตัดด้วยนะ แอบหยิบไปจ่ายตังค์กันดีก่า 55 (แอบทำไม) เปลี่ยนเรื่องเก่ง ^ ^”

ร้านขนมเบ๊ไถ่เฮง ร้านจะอยู่กลางระหว่างกลางทางเดินจากวัดมังกร กับ i'm chinatown ติดถนนเลย สังเกตดีๆ ถ้าไม่เห็นอาจจะเดินผ่านเลยไปเฉยๆ ไม่รู้ด้วยนะ 5555 55

空。2020年01月22日。夜。🔆 🐲🏮🤪

サンセット Sunset of day. アリスの冒険 1日 ☁☁ . . . ● ω ● ♬ ♫

アリスのギャラリー空。Gallery sky of ALice. Collection of our life

STARBUCKS อารมณ์จีน ๆ

สำหรับ i'm chinatown ที่ตก แต่ง สวยงามทั้งด้านในและด้านนอก ก็มีร้านอาหารหลากหลายสะดวกสบายมาขึ้นให้เข้ามาเข้าห้องน้ำ 555 เข้ามาพักผ่อนหาอะไรทานอีกบรรยากาศนึงเนอะ อารมณ์แอร์เย็นๆ

ฉามนี้จะเป็นเย็นตาโฟโบารณ ไม่รู้เหมือนกัน แต่แตกต่างนะ จากที่เห็นๆ คงเป็น น้ำซอสสีส้มๆ ไม่ใช่ซอสีเต้าเจี้ยวสีชมพูอย่างปัจจุบันนะ เหมือนในน้ำซอสสีส้มๆ จะใส่น้ำส้มพริกแบบสีส้มๆ ด้วย รสชาติก็เย็นตาโฟนะ แต่มีความสุกี้อ่ะ เหมือนเย็นตาโฟรสสุกี้ หอม อร่อย ทานอุ่นๆ คือ ดีเนอะ

ต่อมาก็จะเป็นลวกจิ้ม เหมือนลูกชิ้นแคะลวกเสริฟ์ให้ทานกับน้ำซีฟู้ดสีเขียวๆ ไป ส่วนตัวชอบอยู่แล้วเจ้าลูกชิ้นแคะเนี๊ยะลวกร้อนๆ จิ้มซีฟู้ด เป่าทานตอนอุ่นๆ กลิ่นกระเทียมหอมๆ ตีคู่กับหอมซอยที่โรยมา ส่งรสชาติอาหารได้ดี ติดอยู่ คือ ไม่ชอบกินอาหารในห้างหรือห้องแอร์เท่าไหร่เพราะต่อให้เพิ่งลวกสุกหรือปรุงมาร้อนๆ มันชืดเร็วมากและความเย็นเข้าไปในเนื้อของอาหารเลย รสชาติอาหารเสียไปเร็วมากเวอร์

ต่อด้วยขนมหวานไส้ถั่วแดง ที่ไส้เต็มมาก ของร้าน Kodawari เป็นขนมที่ชอบมากกกก ในบรรดาขนมที่กินล่ะอิ่ม จอดเลย

และเจ้านี่ Dino Mailo KAMU ที่ต้องการ รสชาติโรงเรียนที่คิดถึง น้องไดโนที่น่ารักไปอี๊ก

กลับออกมาต่อกันข้างนอกเนอะ

ข้าวขาหมูตี 2 เจ้าดังเดินเลยมาหน่อยก็เจอค่ะ อิ่มแล้วก็ไปเดินเก็บภาพ Street Yaowarach กันต่อเลยค่ะ รู้สึกมีพลัง 555 จริง ๆ (อันนี้ภาพเก่าที่เคยมาเอามาประกอบใครจะไปกินได้เยอะขนาดน้าน 555)

ลุงเค้าหันมาตั้งใจเก๊กมากกก ถ่ายให้ก็ได้ 555 ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว และ เดินเก็บภาพไปเรื่อย

ร้านข้าวแกง เรียกว่าร้านข้าวแกงได้ไม่นะน่าทานมากกกกกกก คนเยอะไป 555

ฝั่งตรงข้ามมีอีกร้านนึง ก็น่าทานไม่แพ้กันเลยอ่ะคับ

ปูผัดผงกระหรี่ ตัวใหญ่น่าทานมาก เมนูโปรดเลย เมนูเยอะ อย่างน่ากิน น่ากิน

ทำใจเดินจากมาก่อน ฉันอิ่มจนไม่สามารถกินไรได้ตอนนี้ ต้องไปต่อแล้วค่ะ เหมือนพากล้องมากินอาหาร

เดินต่อมาสอง สามก้าว ก็จะเจอร้านนี้เลย กะลังดังในรีวิวเลย “ร้านน้ำเต้าหู้” ค่ะ กระแสรีวิวจริงๆ คนอย่างเยอะ บวกด้วยร้านไม่ใหญ่

กล้องเรา 50mm ถอยสุดทางก็เก็บภาพได้หมดเท่านี้อ่ะนะ ฉันโดนตีกรอบ 5555

เดินเรื่อยเปื่อยอ่ะเรา “ร้านมธุรส” ร้านนี้เค้าขายข้าวมันไก่ และ ข้าวขาหมู

ข้าวมันไก่สะโพกราดข้าว ?? ปกติเคยสั่งแต่ ไก่ทอด ไก่ต้ม หนัง ไม่หนัง เนื้อหนัง 55555 ยืนงงงหน้าร้านข้าวมันไก่สองพี่น้อง จริงก็สั่งๆ ตามเค้าไปเดี๋ยวก็ได้กิน

พร้อมไปเดินถ่ายมุม Street กัน อะไร อะไร ก็ได้ แค่สายตาชอบ ไปค่ะ

ร้านขนมหวานที่เสริฟ์ความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยจีนมาในถ้วยเล็กๆ ให้เราได้ชื่นใจระหว่างแวะพักจากการเดินเล่นอ่ะนะ ลืมบอกชื่อร้าน “ 🥄🍮Ba Hao Tian Mi เปา เฮา เถียน มี่ 🍞🥄

ยังไม่เล่าดีกว่า ดูภาพให้หิวๆ กันไปก่อนเนอะ เก็บไว้เขียนแยกโพสอีกทีนะคะ ^ ^

เอาเป็นว่าบอกแค่เมนูที่สั่งมาวันนี้ไว้หน่อยดีกว่าเนอะ เมนูที่นี่เค้าเน้น Pudding Pudding ค่ะ

พุดดิ้งงาดำ (Black Sesame Pudding) มีพุดดิ้งเงาะเกร็ดน้ำแข็งด้วยนะ (Rambutan Granita Pudding)

ชานมฮ่องกง (Hongkong Milk Tea) ก็พุดดิ้งชานมไข่มุกค่ะ (Bubble Tea Pudding)🍮🍮🥄^ ^

ไม่ว่าจะคนไทยหรือนักท่องเที่ยวเค้าก็ลองแวะมาทานกันค่ะ อีกร้านที่ดังในรีวิวจะอร่อยไม่? ประมาณไหนยังไง !! ติดตามในตัวเต็มนะคะ

เดินไปเดินมาแล้วก็เดินมาเดินไป แล้วก็เดินผ่านมาเจอคาฟน้องหมีเปิดใหม่ เก็บภาพไว้ก่อน

ต้องไปต่อล่ะ ^ ^

มาถึงจุดเฉลยภาพต้นบล็อก หรือ ภาพที่ชอบที่สุดของการเดินทางครั้งนี้ล่ะ ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่ามีใครจะอ่านมาถึงจุดนี้ไม 55555 คือ ยาวมาก ภาพเยอะมากกกกกก

“ศาลเจ้ากวางตุ้ง” (San Chao Kwangtung) (สมาคมกว๋องสิวแห่งประเทศไทย) (Kwong Sio Association) ศาลเจ้ากวางตุ้งแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ก่อตั้งโดยชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลกวางตุ้ง ได้จัดตั้งขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 อายุกว่า 100 ปี จากเดิมที่เคยเป็นสมาคม ได้เพิ่มเติมเป็น “ศาลเจ้ากวางตุ้ง” เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางมาสักการะ โดยมีประธานศาล "ซำป้อหุกโจ้ว" หรือ ตามป้าย"พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" ภายในศาลมีเจ้าแม่กวนอิมปางประทานพรถือยาเม็ดกับน้ำ ที่ด้านขวามีเทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าขงจื๊อ เทพเจ้าเหงินฉ่างตี้ชุน(เง็กเซียนฮ่องเต้) และ เทพเจ้าลู่ปานให้กราบสักการะ ขอพร เทพ 4 องค์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เรียนรู้ การสร้าง และ การเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งภายในศาลเจ้ามีองค์เทพเจ้าต่างๆ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองจีน ออกแบบการก่อสร้างและตกแต่ง ตามแบบสถาปัตยกรรมโบราณของจีน ทุกประการ และ นำเข้าวัสดุมาจากประเทศจีนทั้งหมด

ด้านหน้าของศาลเจ้าไปทางด้านขวามือ จะเป็นที่ตั้งของ “โรงพยาบาลกว๋องสิวมูลนิธิ “ สถานพยาบาลเก่าแก่ของสมาคมชาวจีนกวางตุ้ง เมื่อเริ่มแรกเป็นเพียงหน่วยแพทย์ภายในบ้านพักกว๋องสิว ที่ให้บริการรักษาโรคโดยไม่คิดมูลค่า หนึ่งในสวัสดิการสำคัญที่มีในระยะแรก คือ การรักษาโรค งานสุสานกวางตุ้งที่ถนนสีลม และ งานพิทักษ์หญิงดี เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวกวางตุ้งที่ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีในสมัยก่อนนั้น “โรงพยาบาลกว๋องสิวมูลนิธิ “  เป็นโรงพยาบาลสถานกุศล (โรงพยาบาลเดียว) ปัจจุบัน ทำหน้าที่ ช่วยดูแลผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทั้งในเรื่องการขับถ่าย การทำความสะอาดชำระล้างร่างกาย และอาหารการกินต่างๆ โดยหน้าที่เรื่องการดูแลผู้ป่วย คือ การป้อนอาหาร ระวังเรื่องการตกเตียง มดแมลงรบกวน ทำแผล ให้ยาต่างๆ ตามแพทย์สั่ง และให้ยาจากโรงพยาบาลอื่นที่แพทย์สั่งมา  

สมาคมกว๋องสิวแห่งประเทศไทย จัดตั้งมาเป็นเวลา 140 ปี ในสมัย ร.5 ก่อนนาคารสยามกัมมาจล นับว่าเป็นกาลเวลาอันยาวนานร่วมกว่าศตวรรษ ทำให้อดที่จะรำลึกถึงบรรพบุรุษไม่ได้ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาประเทศไทย ก่อตั้งรากฐาน กิจการแสนยากลำบากและได้สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่สังคม ช่วยให้เศรษฐกิจการค้าของประเทศเจริญรุ่งโรจน์ก้าวหน้า

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.chinatownyaowarach.com/articles/42340951/

link แผนที่ Street View ศาลเจ้ากวางตุ้ง : https://goo.gl/maps/BL51bMxtAi72

หน้าสมาคมกว๋องสิว หรือ ศาลเจ้ากวางตุ้ง จะมีร้านอาหารรถเข็นดังๆ อร่อยอยู่ หลายเจ้าเลย อย่างหมูสะเต๊ะย่างเตาถ่านร้อนๆ กลิ่นหมูหมักคลุกเคล้า กลิ่นไฟไหม้ถ่านหอมท้องร้อง 🍢🍢🍢 แล้วก็มีร้านสุกี้โบราณเจ้าดังที่คนผัดผัดไม่หยุดเลยจ้าอย่างชำนาญ 🥘🥄 และ อีกร้านก็จะเป็นโจ๊กหมูสูตรฮ่องกง แต่มืดล่ะเราต้องเลือกในสิ่งที่เลือกอยากกกก 5555

เอาเป็นร้านสุดท้าย ร้านที่คนเยอะที่สุดในตอนนี้นับจากสายตา “โจ๊กหมูสูตรฮ่องกงจ้า” คนเยอะแต่ได้ที่นั้งพอดีว่างตรงไหนนั้งได้เลย นั้งร่วมกับใครก็ได้นะ เป็นร้านข้างถนนติดกันทั้ง 3 ร้านเลยค่ะ

เอาเป็นโจ๊กหมู เอาแต่หมูไม่เครื่องใน เค้าให้เลือกที่ไข่ค่ะ เอาเป็นไข่เยี่ยวม้า มีคนเคยบอกว่ามันเอาไปหมักในเยี่ยวม้า ^ ~ ^ แล้วก็มีไข่ไก่ดำ กับไข่ไก่ธรรมดาค่ะ เออพอดีได้ยินป้าๆ ที่มานั้งร่วมโต๊ะด้วยเค้าคุยกันระหว่างเลือกสั่งอาหารค่ะ แอบฟังมา (เสียมารยาทนะคะ555) เค้าคุยกันว่าไข่ไก่ดำอ่ะ คือ เอาไข่ไก่ไปหมักซอสซีอิ๊วดำ ซอสดำไรงี้ ม่ายรู้อ่ะนะว่าจริงป่าว 5555

“โจ๊กหมูสูตรฮ่องกงใส่ไข่เยี่ยวม้า” มาล่ะจ้า คือ ดีสุดสำหรับวันนี้เลย รสชาติดีมากกกก ไม่ใช่เพราะเหนื่อยหรือหิวนะอย่างบอกอิ่มตลอดทางและเป็นคนแบบกินได้ไม่เยอะ แต่ คือ อร่อยหมดฉามเลยอ่ะ !! ชอบเลย เออลืมเล่าให้ฟังนอกจากจะเจอ มาร์ช จุฑาวุฒิ ตอนบ่ายที่วัดเล่งเน่ยยี่แล้วตอนมืดก็มาเจอแถวร้านหมูสะเต๊ะข้างๆ นี้ด้วยนะ คือ เราว่าอร่อยของดีทั้งสามร้านอ่ะแวะมาที่เดียวได้กิน 3 ร้านเลยนะจริง เมื่ออิ่มเอมกับรสชาติของอาหารกันไปล่ะ ไปเดินชมเมือง หลังพระอาทิตย์ตก ไปเดินย่อยอาหาร กระเพราะเต็มล่ะ ไปเติมอาหารตา อาหารใจ ก่อนกลับบ้านกันดีกว่า ไปเดินเก็บบรรยากาศเยาวราชคืนก่อนวันไหว้ ของเทศกาลตรุษจีนปี 2020 กันไปค่ะ ^ ^

กล้องเริ่มบอกว่ามืดจัง ไม่ไหวล่ะ 555 ขาบอกฉันเหนื่อยเป็นนะแก พุงแอบคุยกะหนังตาฉันอิ่มจนตาหลี่ล่ะ ชวนยัยนี่กลับบ้านเหอะ หมุยหมุ้ยกลับบ้านนอนกัน ร่างกายบอกกับเราอย่างงั้น มืดล่ะกลับบ้านกันเหอะ ราตรีสวัสดิ์เยาวราช ราตรีสวัสดิ์ทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบและทุกคนที่อ่านจนหลับไปก่อน บ๊าย บายค่ะ ไว้กลับมาเขียนโพสต่อไปจะเขียนอะไร ภาพจะสวยแค่ไหนฝากติดตามนะคะ ^ ^