ไทยากิ ( 鯛焼き Taiyaki "ขนมปลาย่าง") การเดินทางผ่านวัฒนธรรม ขนมญี่ปุ่นเดินทางมาขยายอนาเขตในหัวใจคนไทยอย่างมากมาย เจ้าขนมปลาที่ผ่านการย่าง หรือ อบร้อน แป้งที่กินพร้อมกับไส้อุ่นๆ เจ้านี่เดินทางเข้ามาในไทยได้ยังไงกันนะ?? คงไม่ต่างจากขนมญี่ปุ่นอื่นๆ อีกมากมายที่ครองใจคนทั่วทั้งโลก เริ่มต้นที่ความน่ารัก ความแปลกใหม่ จนเราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในความสร้างสรรค์ที่นึกถึงผู้บริโภคเสมอของชาวญี่ปุ่นที่คนทั้งโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีค่ะ ^ ^
สำหรับคนไทยด้วยวัฒนธรรมความอบอุ่น วัฒนธรรมครอบครัว สังคมเราที่คล้ายคลึงกันไม่น้อย
สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ของใช้ อาหาร ความเรียบง่าย ไลสไตล์ต่าง ๆ เราจึงมีความชอบ และ หลงไหล ความเป็นญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว ทำให้เข้าถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ง่ายก็มีส่วนค่ะ ^ ^
วันนี้เรามาพูดถึง ขนมปลาไทยากิ กันค่ะ ปลาย่างที่เป็นขนมยอดฮิตตลอดกาลมีที่มายังไงกันนะ
มาทำความรู้จักขนม ไทยากิ ขนมหวานสุดโปรดของสาว ๆ กันค่ะ ^ ^
ไทยากิ ( 鯛焼き Taiyaki ) ดั้งเดิมเคยมีหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะอยากรู้กันแล้วใช่ไมล่ะ ?
" ขนมเค้กสอดไส้ถั่วแดงลูกกลม ๆ " ในโตเกียวแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ!! ไม่ได้รับการยอมรับ และ ด้วยเหตุนี้จึงได้คิดค้นหน้าตาของขนมใหม่ "ให้มีลักษณะเหมือนปลาไท" หรือที่เรารู้จักกันอย่างดีสำหรับขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง เป็นเค้กรูปปลา มีไส้รสหวาน ที่ครองใจสาว ๆ กันไปแล้ว เป็นขนมที่กินง่ายไม่ว่าจะเดินกินไปช๊อปปิ้งไป นั้งกินกับน้ำชา นมสด โกโก้ สวยๆ กับ เพื่อน ๆ ก็ได้บรรยากาศที่ดี
อย่างที่บอกเจ้านี่เป็นขนมที่มีไส้ และ โดยส่วนมากจะสอดไส้ด้วยถั่วแดงอาซูกิ และ ในเวลาต่อมา ได้มีไส้ที่หลากหลายมากขึ้น เพราะเป็นขนมหวานสำหรับสาว ๆ โดยเฉพาะค่ะ ก็จะมีทั้ง ไส้คัสตาร์ด, ช็อกโกแลต, ชีส หรือ มันหวาน และ ในญี่ปุ่นร้านค้าบางแห่งนิยมขายไทยากิ ไปพร้อมๆ กับ โอโคโนมิยากิ, เกี๊ยวซ่า หรือ ไส้กรอก ปัจจุบันหลายร้านเพิ่มความโมเดิ้นด้วยการเปิดเป็น Cafe และ Create Menu ให้น่าสนใจ น่ารัก น่าทานมากขึ้น อย่างทานกับไอครีมที่มีให้เลือกรสตามใจชอบเพิ่ม Topping น่ารักๆ สดใส หรือ แอบทานกับวิปครีมสุดเลิฟฟฟ ลืมความอ้วนไปอีกหนึ่งวัน ^ ^
รู้ไมคะว่า เจ้าขนมปลาไทยากิ ( 鯛焼き Taiyaki )
มีความเป็นมายังไงกันบ้าง ดาเชื่อว่า มันเป็นเรื่องน่าสนุกที่เราจะได้รับรู้ที่มาของขนมที่เราชอบ
ได้ทำความรู้จักกับสิ่งที่เราชอบโดยเฉพาะของกินค่ะ อยากให้ทุกคนสนุกไปด้วยกันนะคะ ^ ^
สิ่งที่ก่อกำเนิดวัฒนธรรมเป็นโลกก่อนที่เราจะรับรู้ การค้นหาทำให้เกิดความรักมันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ไทยากิ เกิดขึ้นครั้งแรกที่โตเกียว ในยุคเมจิ (明治時代 Meiji-jidai เมจิจิได)
ค.ศ. 1868 - ค.ศ. 1912 (เป็นยุคสมัยของญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าสู่ ยุคใหม่ (Modern Era) ของญี่ปุ่น)
โดยเซอิจิโร คัมเบะ ชาวโอซากะ ได้เปิดกิจการร้านนานิวะโซฮนเต็ง "ขายขนมอิมางาวายากิ"
ซึ่งเป็น "ขนมเค้กสอดไส้ถั่วแดงที่มีหน้าตาเป็นลูกกลมๆ" ในโตเกียว แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ
จึงมีความคิดออกแบบหน้าตาของขนมใหม่ ออกมามีหน้าตาเหมือนปลาไท ที่เป็นสัญลักษณ์มงคลอย่างหนึ่ง บวกกับความน่ารัก น่าทาน จนเป็นที่นิยมในเวลาต่อมาจนถึงปัจุบัน
ไทยากิ มาจากคำว่า "ปลาจาน" (鯛 tai) กับ "ย่าง" (焼き yaki) แปลว่า "ปลาจานย่าง" ปัจจุบันสามารถหารับประทานได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามศูนย์อาหาร และ ตามเทศกาลสำคัญ ๆ ของญี่ปุ่น ส่วนใครไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ก็จะเห็นมีขนมรูปลักษณ์เดียวกันด้วยค่ะ แต่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า พุงออ-ปัง (붕어빵 "ขนมปังปลาทอง") น่ารักไปอีก 5555 แต่ก็ได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นช่วงปี ค.ศ. 1930 เป็นช่วงที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นนั่นเอง
ถ้าใครอยากทานเจ้านี่ ก็ต้องหาเวลาใช้ชีวิตแบบ Slow life กันนิดนึง เพราะคนขายเค้าใช้เวลานานอยู่ค่ะ
คนขายจะพลิกแป้นพิมพ์ที่หยอดแป้งลงไปแล้ว กลับไป กลับมา เพื่อให้แป้งข้างในสุก และ นุ่ม เท่ากัน
ข้างนอกเนื้อแป้งนอกจากจะเหลือง หอม น่าทานแล้ว เมื่อได้ทานร้อน ๆ ทันทีแป้งจะกรอบเมื่อกัดจะนุ่มถึงข้างใน ความหอม หวาน และ กรอบของแป้งยังไม่พอค่ะ มีไส้ด้วย รอแป้งสุกได้ที่แป๊บนึงนะคะ
คนขายจะใส่ไส้ให้เห็น ๆ เลยค่ะ
ความร้อนทำให้แป้งกำลังเดือด และ ค่อย ๆ สุก กรอบจากด้านนอก จะอดใจรอไม่ไหวล่ะ
ได้ดูตอนคนขายทำยิ่งมีความสุขกับการทานคูณสองไปอีก 5555
หอมแป้งกะลังสุก หอมเนยอุ่น ๆ เมื่อแป้งสุกได้ที่ พอสมควรค่ะ จะเริ่มใส่ไส้ ที่ชอบได้เลยค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องย่างต่อค่ะ
ดั้งเดิมจะเป็น ไส้ ถั่วแดงอุ่น ๆ หอม ๆ หวานกะลังดี ซึ้งถั่วแดงญี่ปุ่น เป็นอะไรที่ไม่หวานเกินไปหลงรักมาก ของโปรดดาเลยค่ะ ที่เมืองไทยก็จะมีไส้ที่เหมาะกับคนไทย ที่คนไทยชอบค่ะ เชื่อว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนก็เช่นกันเนอะ ส่วนข้างหลังเป็น ช็อกโกแลตค่ะ
ไส้ชีสค่ะ ข้างหน้าเป็น ไส้ชีส ก็อีกของโปรดของดากับน้องสาวอีกล่ะ 555 55
เมื่อแป้งสุก ทั้งความหอมของแป้ง และ เนย เพิ่มเติม คือ ความหอมหวานของไส้
อะไรจะดีเท่าตอนนี้ไม่มีล่ะคะ เป็นการรอคอยที่มีค่า ^ ^ ^ ^
ร้านนี้จะมีไส้ให้เลือกหลายอยู่ค่ะ เท่าที่จำได้ กินบ่อยสุด คือ ไส้ถั่วแดง ไส้ครีมคัสตาร์ด ไส้ชีส ส่วนไส้อื่น ๆ ก็จะเป็น ไส้ช็อกโกแลต ไส้ชาเขียว ไส้ชาไทย ไส้ใบเตย ไส้สตรอเบอร์รี่ ประมาณนี้ค่ะ
Woww ตื่นเต้นจัง !!!!
สุกเหลือง น่าทานนนนนนนนนนนนนนนนน มาาาากกกกกกกกกกก
จะได้ทานแล้วค่ะ ความ กรอบ นุ่ม หอม หวาน เป็นหัวใจของขนมหวาน ที่ใคร ๆ ก็หลงรักค่ะ ^ ^
ราคาก็ประมาณ 39 บาท ต่อชิ้นค่ะ ยกเว้น ไส้ชีส 59 บาท ต่อชิ้นค่ะ ราคานี้เฉพาะร้านที่ตลาดนีออนนะคะ และก็มีให้เลือกทานแบบทานคู่กับไอศครีมรสชาติที่ชอบ Topping น่ารักๆ ให้เลือกอีกด้วย ราคาอีระดับนึงค่ะ ร้านนี้มีน้ำผลไม้มีสมูทตี้ด้วย ชอบแบบไหนก็ลองหาทานดูนะคะ ดาชอบทานร้านนี้เวลาที่พี่สาวเจ้าของร้านเป็นคนทำให้ค่ะ
ทานร้อน ๆ กรอบ นุ่ม และ หอม หวานมาก ชอบที่สุด ก็ไส้ถั่วแดง และ ครีมคัสตาร์ดค่ะ
มาดูกันว่า เจ้าตัวนี้ไส้อะไร ?? ยืดได้ด้วย !!!
ไส้ชีส ค่ะ เป็นไส้โปรดของน้องสาวเรา ราคาแพงสุดที่ 59 - ค่ะตัวนี้
สนุกกับการยืดชีสถ่ายรูปมาก 555 555
ไส้ชีส อร่อยดีค่ะ แต่ต้องทานตอนร้อน ๆ นะคะ
เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่กลัวอ้วนเท่าไหร่ และ ไม่ชอบความหวานมาก
อันนี้เราถ่ายตอนมาในฐานะ คนทำรีวิวอาหารค่ะ น่าจะเป็นตัวแรกของดาเลยค่ะ เลยเลือกเส้นทางกลับบ้านที่เราคุ้นเคย และ น้องสาวมาช่วยพอดีค่ะ การเป็นคนถ่ายรีวิวอาหารก็สนุกดี ได้เห็นความสุขของคนทำในมุมของคนทำไปพร้อม ๆ กับมีเวลาหยุดฟังเรื่องราวต่าง ๆ ตรงจุดนั้น จากคนที่เราก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ตอนที่เราเป็นคนรีวิวจะเพจอาหารเพจนึงของชาวไต้หวันในไทย เรามีโอกาสได้ออกถ่ายโดยเดินทางไปคนเดียว ทางร้านทุกร้านนั้งพูดคุยกับเรา น่ารักทุกคนเลยค่ะ ขอขอบคุณไว้ ณ จุด นี้ด้วยค่ะ ดาได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่าน เวลา สถานที่ และ ผู้คนที่แตกต่างกันออกไป ปัญหาที่หลากหลาย ขอบคุณในความน่ารัก เป็นกันเอง และ อบอุ่น จากทุกสถานที่ค่ะ ^ ^
ไม่มีร้านแนะนำนะคะ
วันนี้วันสุดท้ายของงานแวะไปหาทานที่งานนี้ได้นะคะ มีแน่นอน
HOKKAIDO FOOD FESTIVAL
เมนูประจำภาคฤดูร้อนของฮอกไกโด
Market Hall G FL., Siam Parag
Today - 30 Jul, 18
Comments