top of page
  • Writer's pictureALIS

PORTRAIT OF CHAROENKRUNG & BANGKOK DESIGN WEEK 2020 @TALADNOI CHAROENKRUNG

Updated: Feb 22, 2023

เชื่อมโยงเรื่องราว เชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน เชื่อมโยงคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ครอบครัว“ เติมความอบอุ่น เพิ่มความน่ารักให้กับ สถานที่ ชุมชุน ผู้คน ตลาดน้อย แหล่งเดินเล่น Local ที่ใครๆ ก็อยากแวะมาเก็บภาพ ความเติมความทรงจำดีๆ ร่วมกัน ซึ่งปีนี้มีการจัดงานที่เชื่อมโยงด้วยการถ่ายภาพ สร้างความอบอุ่น เพื่อเชิญชวนและต้อนรับผู้คนมาเที่ยวย่านเจริญกรุง บทนำด้วยเรื่องราวของคนครอบครัวเจริญกรุง ที่มีชื่อ PROJECTS ว่า PORTRAIT OF CHAROENKRUNG & BANGKOK DESIGN WEEK 2020 1 - 9 Feb 2020 @Charoenkrung ระหว่างทางจะมีการนำเสนอยังไง น่าสนใจแค่ไหน เดินไปด้วยกันเลยนะคะ

Portrait of Charoenkrung 1 - 9 Feb 2020 @Charoenkrung จุดที่เป็น Gallery หลักๆ จะอยู่ตรงท่าน้ำภานุรังษี แต่ระหว่างนั้น ระหว่างทางมีอะไรอีกมากมายได้จูงมือเดินค้นหาเรื่องราวไปด้วยกันไม่ว่าจะมากับคนรัก เพื่อนเลิฟ เดอะเกลอแก๊ง หรือ จะพาครอบครัวมาเดินเยี่ยมชมความ “เจริญกรุง“ ที่เติปโตด้วยความอบอุ่น ความเหนียวแน่นของชุมชนครอบครัวชาวจีน ในระหว่างทาง ในทุกภาพ มีเรื่องราวในตัวมันเอง อยู่ที่คนเดินผ่านมาจะอ่านมันกลับไปแบบไหน … . .

ระหว่างทางที่เชื่อมโยงด้วยภาพถ่าย กับ ชุมชน และ เรื่องราว เดินชมชุมชนไปเรื่อยๆ ผ่านที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของชุมชน ร้านอาหาร Cafe’ ต่างๆ แวะพักตรงไหนก็ได้ เหมือนกำลังหาอาซีระหว่างทางก่อนไปถึง Gallery หลักที่ท่าน้ำภานุรังษี ได้ถูกจัดเตรียมการไว้แล้วตลอดทางอย่างน่าสนใจ . . .. เราจะเริ่มเล่าไปเรื่อยๆ จากจุดนี้เลย ระหว่างทางที่จัดเตรียมไว้จุดที่เรียกร้องความสนใจเราได้มากสุดดดด

ภาพถ่ายมากมายในโครงการได้ถูกนำมาแขวนโชว์ตามกำแพงข้างทาง ในชุมชน ร่วมกับการใช้ชีวิต ปกติธรรมดาประจำวันของคนในชุมชนตลาดน้อย ระหว่างยืนถ่ายภาพก็ต้องใจเย็นหน่อยนะ เพราะจะมีรถมอไซค์ รถตุกตุ๊ก ผู้คนชุมชน พ่อค้า แม่ค้า รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินสวนกันไปมา คือแบบ เป็นชุมชนที่คึกคัก มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาจริงๆ แต่คนที่นี่น่ารัก ค่อนข้างชินกับการถูกถ่ายภาพ หรือ ชินกับการมาของนักท่องเที่ยวตลอดเวลา

ภาพนี้ตอบชีวิตคนตลาดน้อยได้เป็นอย่างดีเลย นอกจากค้าขายอาหาร ของกิน อีกอาชีพสำคัญของคนในชุมชนตลาดน้อย ก็เห็นจะเป็นเศษโรงเหล็กที่เดินไปตรงไหนก็เจอเนอะ

ภาพนี้เราค่อนข้างคุ้นชินกับสถานที่นิดหน่อยไว้พาเดินไป เราเคยมาเดินถ่ายภาพที่นี่แล้ว ตรงนั้น คือ ศาลเจ้า ลืมบอกไปว่าทางที่เดินเข้ามา คือ ทางเดินที่ไป “ศาลเจ้าฮ่อนหว่อง” ศาลเจ้าประทานลาภ เดี๋ยวพาไปค่ะ พอถึงแล้วจะเล่าถึงที่มาของภาพวาดปลาที่วาดอยู่บนกำแพงให้ฟังอีกทีเนอะ

เดินตามภาพกันต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ภาพน่ารักๆ ของน้องหมา น้องเค้าอยู่บ้านไหนกันนะ น่ารักจัง

เรื่องราวต่างๆ ไม่ได้อยู่แค่บนกำแพง เรื่องราวจริงๆ เราเองก็ยืนอยู่ในสถานที่แห่งนั้นแล้ว ช่วยบอกเค้าที

การเล่าเรื่องด้วยภาพเป็นสิ่งที่เราหลงไหล มันเลยเรียกร้องให้เรามางานนี้ มันทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนอื่นๆ ที่เค้ามองที่นี่อย่างน่าสนใจผ่านภาพถ่าย เราว่ามันน่าสนุกนะที่ได้มีโอกาสยืนมองภาพมากมายที่ต่างมุมมองบนสถานที่จริงๆ แห่งนั้น ที่รวมเข้าด้วยกันกับชีวิตประจำวันของคนในชุมชน ต้องขอบคุณเรื่องราวมากมายของคนเจริญกรุง

เราชอบภาพถ่าย แสง และ เงา ของ set นี้มาก มันดูมีชีวิต แต่กลับเหงา ดูมีความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ . ..

ถ้าเงามันหมุนได้ตามลม คงกลายเป็นกังหันลม . . . ฟี้ววว!!

เรื่องราวมากมายที่แขวนไว้ข้างทาง … ได้สิ้นสุดลง … เงียบๆ ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน . ..

ที่นั้งพักสุดฮิป ชอบว่ะมุมนี้ ไม่กล้านั้งเลย 55555 555

PORTRAIT OF CHAROENKRUNG 石龙军路的肖像 MR. CHAROENKRUNG

หากเปรียบเทียบย่านเก่าแก่สักย่านหนึ่งในกรุงเทพเป็นดังเช่นบุคคลคนหนึ่ง นาย “เจริญกรุง” ก็เป็นดังเช่น ชายวัยสูงอายุ ที่ผ่านร้อนหนาวมาแล้วกว่า 150 ปี เป็นปูชนียบุคคลของลูกหลานในย่านนี้มาแล้ว หลายต่อหลายรุ่น และที่สำคัญที่สุด ความมีสเหน่ห์ในทุกมุมมองของตัวท่าน

เรากำลังเดินผ่านเรื่องราวของชายชราวัยกว่า 150 ปี ที่เรียกว่า คุณปู่ “เจริญกรุง”

นอกจากการเล่าเรื่องของภาพถ่ายแล้วเราก็สามารถเก็บเรื่องราวรอบๆ ตัวในยุคของเราบ้าง ไปกันค่ะ

“ศาลเจ้าฮ่อนหว่อง” ศาลเจ้าประทานลาภ มาถึงแล้วค่ะ เดินมาสุดทางก็พบ “ศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง” ศาลเจ้าของชาวฮากกา(จีนแคะ) ที่อยู่รวมในหมู่บ้านชาวฮกเกี้ยน ซึ่งเป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ในถิ่นตลาดน้อย ที่น่าสนใจ เป็นศาลเจ้าของกลุ่มชาวจีนแคะที่ได้มาอยู่ปะปนกับชาวฮกเกี้ยน ซึ่งคนไทยรู้จักกันตามถนัดปากว่า ศาลเจ้าโรงเกือก มากกว่าที่จะเรียกตามแบบคนไทยเชื้อสายจีน ที่เรียกตามนามเทพประธานประจำศาลแห่งนั้น คือ เทพฮ้อนหว่องกุ้ง อันเป็นที่มาของชื่อ “ศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง” นั่นเอง ศาลเจ้าโรงเกือก“ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัย ร. 5 ซึ่งมีอายุกว่าร้อยปีมาแล้วได้

ชาวฮากกา(จีนแคะ) ฮักกา หรือ ฮากกา ตามภาษา จีนแต่จิ๋วที่เรียกว่า แขะแก หมายถึง ครอบครัวผู้มาเยือน เป็นชาวจีนที่อพยบไปในถิ่นชาวจีนเชื้อสายอื่นๆ นั่นเอง ชาวจีนแคะย่านตลาดน้อย ส่วนใหญ่มีความชำนาญในด้านเครื่องเหล็กและเครื่องจักรกล ด้วยเหตุนี้ศาลเจ้าของพวกเค้าจึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ศาลเจ้าโรงเกือก“ “เกือก“ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงรองเท้าของผู้คนแต่อย่างใด แต่คงหมายถึงเกือกม้า น่าจะมีความเป็นไปได้สำหรับช่างตีเหล็ก เดิมทีมีเรือสำเภาเข้าเทียบ มีการทำสหมอเรือ อีกทั้งการถอดอะไหล่และการซ่อมแซมเครื่องจักรเก่า จนกลายเป็นย่านเซียงกงดังในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความชำนาญในด้านเครื่องจักรและเครื่องเหล็กมาก่อน จนนำมาสู่การสร้างศาลของตนในย่านนี้

เห็นนกไม ?

“ศาลเจ้าโรงเกือก“ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัย ร. 5 ซึ่งมีอายุกว่าร้อยปีมาแล้วได้

“จากข้อมูลบนป้ายศิลาภายในศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุงซึ่งบันทึก เมื่อรัชสมัยจักรพรรดิกวางสู ปีที่ 15 ตรงกับปี พ.ศ.2432 กล่าวว่า พ่อค้าชาวจีนฮากกา (จีนแคะ) ได้เชิญองค์เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง จากเมืองจีนมาประดิษฐานบูชาในประเทศไทยเป็นเวลากว่า หนึ่งร้อยปีก่อนที่จะมีการสร้างศาลเจ้าที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

**ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากวารสารเมืองโบราณ

ปลาหลีฮื้อ

ที่มา : คนในชุมชนเล่าว่า “ปลาหลีฮื้อ” เป็นปลาที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำเจ้าพระยา

แนวคิด : บริเวณที่วาดภาพเป็นบริเวณที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ศิลปินจึงออกแบบภาพให้มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า จึงวาดรูปปลาหลีฮื้อซึ่งเป็นปลาที่ชายจีนเชื่อว่าเป็นปลามงคล เพื่อสอดคล้องกับสถานที่และความเชื่อของคนในชุมชน

ศิลปิน : DR.CAS IG : doctor_cas

จุดจุดเดียวกับในภาพที่เล่าให้ฟังไว้ตอนต้นนะคะ ไม่รู้มีใครจำได้ป่าว 555555 55


“ศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง” ศาลเจ้าโรงเกือก ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

ชุมชนตลาดน้อยเป็นแหล่งท่องเที่ยว Local ที่ชาวต่างชาติชื่นชอบในการมาปั่นจักรยานชมชุมชนชิวๆ เราว่ามันแพงไปอ่ะ คือ ความจริง เราปั่นจักรยานไม่เป็น เราชอบเดิน ช้า ช้า เฝ้ามองการเคลื่อนย้าย แสง เงา ตามการหมุนของเวลา. .. ไปค่ะ เดินต่อ …

🏚 บ้านริมน้ำ Baan Rim Noam 🧉

ร้านนั้งชิว์ อีกร้าน ที่อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา สั่งอะไรมาทาน นั้งห้อยขาริมน้ำ ชมวิวเจ้าพระยา สบายใจ ฟังเรื่องเล่าของชุมชนตลาดน้อย เป็นชุมชนชาวจีนที่อพยบมาตั้งถิ่นฐานทางตอนใต้ของสำเพ็ง ซึ่งเป็นถิ่นฐานที่ติดริมน้ำ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของแต่ล่ะบ้าน ทั้งสะดวกกับการคมนาคม การไปมาหาสู่ และ การค้าขาย รู้ไหมว่า “ตลาดน้อย“ ที่เราเรียกกัน คนจีนเค้าเรียกว่า “ตะลักเกี๊ยะ”

บ้านริมน้ำ เดิมเป็น โกดังเก็บสินค้าสุดท้ายที่เหลือจากต้นศตวรรษที่ 19 ต้นรัชกาลที่ 2 คลังสินค้าเก่าแก่อายุ 200 ปี และ บริเวณที่ประกอบไปด้วยโรงเก็บของที่กว้างขวางและสวนตั้งอยู่ในตลาดน้อยท่าเรือเดิมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามระหว่างสะพานสะพานตากสินและสะพานอนุสรณ์

บริเวณนี้เพิ่งถูกดัดแปลงให้เป็นพื้นที่ร่วมสมัยที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันจันทร์ด้วยโปรแกรมกิจกรรม และ การทำอาหารมากมาย ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก www.baanrimnaam.com

เจ้าน้องแมว เค้านอนหลับสบายเบย อยู่บนตุ่มหน้าร้าน บ้านริมน้ำค่ะ แวะมาทักทายความน่ารักกันนะคะ

น้องส้ม .. . เจ้าแมวขี้เซา zZ zzz เราว่าน้องแมวที่นี่ขี้เซาอ่ะ เดินๆ ผ่านไปน้องแมวเยอะมากกก

บ้านริมน้ำ Baan Rim Naam ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

🏮So Heng Tai Mansion 🏮🏮“บ้านโซวเฮงไถ่”🏮 บ้านจีนโบราณที่เป็นโรงเรียนสอนไหว้น้ำ และ Cafe’ ผ่านมากี่ครั้งก็ไม่เคยเปิดเลยแหะ 55555 คนผ่านมาเยอะ รอบนี้เดินมาถึงก่อนคนอื่นๆ ที่มาเลยได้ถ่าย … เดินไป เรื่อย เรื่อย ไปต่อ คับผม …

เดินต่อมาเรื่อย ๆ ไปตามลูกศรบอกทาง ของงาน ก็มาถึง รถเก่า รถโบราณที่เค้าชอบมาถ่ายภาพกันค่ะ ไม่มีไรมาก มีอยู่คันเดียว พัง พัง เนี๊ยะแหละ ไปต่อกันเนอะ

มาจ้าถึง Cafe’ ดังประจำถิ่นย่านตลาดน้อย ความจีนที่ไม่น้อยหน้า บ้านจีนเก่าๆ ที่อยู่รายล้อม น่าจะไม่มีใครไม่รู้จักร้าน “ไถ่ง้วน” Taiguan Cafe’ คาเฟ่จีน หลงยุค บ้านจีนประวัติศาสตร์เดิมทีเคยเป็น Gallery Art ที่เป็นที่รู้จักกันในแวดวงศิลปินเท่านั้น ซ่อนตัวอยู่หลังศาลเจ้าโจซื่อกง วันนี้ได้ถูกรีโนเวท เป็นคาเฟ่สไตล์จีน เปิดให้ผู้คนเข้าชมพร้อมตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปินจีน ทานขนมเมนูสไตล์จีนๆ เฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของทานร้าน ทั้งน่าทาน และ แปลกตาอยู่นะ เข้าไปสั่งกันเล้ย!!

มาถึงแล้วก็ต้องลองค่ะ ลองสั่ง ขนมเมนูสไตล์จีนๆ เฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของทานร้าน มานั้งทาน ทั้งน่าทาน และ แปลกตาอยู่นะ สั่ง Set น้ำชามา นั้งจิบชา ทานขนมเปี๊ยะวาฟเฟอร์ อารมณ์เหมือนเดินเข้าโรงเตี๊ยมจิบน้ำชาจีน ซึ่งเรามาค่อนข้างบ่อยเลย (ไว้เก็บไว้เล่าต่อกันยาวๆ ในโพสของร้านนี้เนอะ)

กาน้ำชาจีนอุ่นๆ นี่และที่ดึงดูดให้เราต้องมาที่นี่ คือ ชอบรินชาอุ่นๆ จากกาและแลกจอกพี่น้องร่วมสาบานกัน อินหนังจีนสุดดดด 555 กาตกแต่งร้าน และ เมนูของร้านอิน ได้อารมณ์กลิ่นอายความเป็นจีนดีมาก เหมือนเราได้แวะมาเยือนบ้านเจ้าสัว เดิมทีที่นี่เป็นเพียงบ้านเจ้าสัวเก่าแต่ประวัติศาสตร์เลย ได้ถูกบูรณาขึ้นมาใหม่โดยผู้อาศัยในรุ่นปัจจุบัน โดยดึงดูดความเดิมของชุมชนชาวจีนมารวมซ่อนอยู่ที่นี่เลยก็ว่าได้

อันเนี๊ยะเลยชอบมากกกก TOFU จะเป็นเกร็ดน้ำแข็งที่เป็นน้ำเต้าหู้ และ จัดแต่งด้วย เครื่องต่างๆ ที่กินกับน้ำเต้าหู้ หรือ เต้าถึง ขนมหวานที่เป็นอาชีพของชาวจีนเลย ปกติทั่วไปเค้าจะขายร้อนๆ ทานอุ่น หรือถ้าเป็นน้ำเต้าหู้ไหหลำจะมีแบบเย็น ที่แค่ใส่น้ำแข็ง แต่ที่นี่ทำเป็นเกร็ดน้ำแข้ง เหมือนที่เราชอบเอาไปแช่ตู้เย็นที่บ้าน ให้แข็งแล้วนำออกมาเอาช้อนเคาะๆ กินเย็นๆ ชื่นใจ แต่เค้าทำออกมาหน้าตาดีมากกกกเลย

เปี๊ยะวอฟเฟิล เป็นอะไรที่พิเศษดีอ่ะ วอฟเฟิลที่เป็นแป้งขนมเปี๊ยะ มีไส้ไข่เค็ม กะไส้เผือกค่ะ ชอบสองรสเลย ของอร่อยเคยไม่ชอบเหรอ แต่กินล่ะอิ่ม กินอื่นต่อม่ะได้ 5555 อ่อพี่เจ้าของร้านเค้าบอกมาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ในเดือนกุมภานี้ เมนูเก่าๆ จะมีอยู่หรือไม่ ลองติดต่อสอบถามทางร้านดูก่อนได้นะคะ แต่ว่า อยากรู้ล่ะเมนูใหม่ๆ จะมีอะไรเพิ่มเติม หน้าตาอย่างไง ตื่นเต้นจัง … ภาวนาให้กับน้องโทฟุอยู่ต่อไป

ยัยแก้วน้ำ แก้วที่ 5 ของวันเท่าที่นับได้ 55555 หลังจากเดินเล่นกันมาเรื่อยๆ หนึ่งชั่วโมงได้ ขอสั่งน้ำโปรดของร้านนี้สักแก้ว “Lemon Plum Soda“ ที่ชอบ เลมอนผสมบ๊วยเติมโซดา เพิ่มน้ำแข็งลงไปนิดหน่อย ลงตัว สดชื่นเลย ไปต่อได้ …

Lemon Plum Soda & Strawberry Soda“ ต้องไปทั้งๆ ที่อยากนั้งต่อ ต้องไปให้ถึงภาระกิจค่ะ เจ้าของร้านบอกว่า เดินไปต่อ อีกนิดก็จะถึง Gallery แล้ว เดินเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้าย ก็ท่าน้ำแล้ว (อีกนิดดดดด) 5555 จริงๆ ก็พอรู้ทางอ่ะ คนแถวนี้ 555 เคยเดินหลงไปตรงนั้นครั้งนึง พอจำได้ ^ ^”


TaiGuan Cafe’ ไทง้วนคาเฟ่ ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^ https://alisismaeal.wixsite.com/itourtime/post/taiguan-cafe-หร-อ-ไทง-วนคาเฟ

ออกมาจากซอกหลืบ 555 ก็จะพบศาลเจ้าใหญ่ของชาวฮกเกี้ยน ที่ถูกบูรณาการอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ย่านจีนถิ่นบางกอก ที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่า “ศาลเจ้าโจซื่อกง” วัดซุ่นเฮงยี่ (順興宮) ช่วงเทศกาลกินเจที่นี่ดังมากผู้คนมากมายจะพากันมาตรงหน้าลานเพื่อชื่นชมเทศกาลกินเจต้นตำรับในกรุงเทพที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน 230 ปี เป็นเทศกาลใหญ่ประจำปีของที่ที่ตลาดน้อยเลย จะมีโรงทานอยู่ด้านข้างค่ะ

"ศาลเจ้าโจวซือกง" สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๓๔๗ เพื่อเป็นศูนย์รวมของชาวจีนฮกเกี้ยน ถือว่าเป็น “ศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในย่านตลาดน้อย” เดิมเป็นวัดชื่อ "ชุนเฮงยี่" มีเทพประธานของศาลเจ้า คือ เทพโจวซือกง หรือ หมอพระเช็งจุ้ยโจวซือ ซึ่งเป็นหมอพระที่ชาวฮกเกี้ยนให้ความเคารพนับถือ


ศาลเจ้าโจวซือกง เดิมสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นก่ออิฐผสมไม้ ลักษณะตัวอาคาร รูปแบบสถาปัตยกรรมจีนฮกเกี้ยนโบราณ ในอดีตมีแค่หลังเดียว ต่อมาได้ต่อเดิมเป็นสามหลังทะลุติดถึงกัน ภายในและภายนอก มีการตกแต่งหลังคาและผนังด้วยตุ๊กตาปูนปั้นจีนประดับกระเบื้องศิลปะฮกเกี้ยน ตามเทพนิยายจีน

มีไม้แกะสลักประดับตามขื่อหลังคา คาน ช่องลมและแท่นบูชาอย่างวิจิตรสวยงาม ผนังสองด้านของศาลมีปูนปั้นประดับกระเบี้องรูปเสื้อขาวแปะฮ่อประจำทิศตะวันตก และ มังกรเขียวแชเหล็งประจำทิศตะวันออก ตามคติจีน (เต่าดำฮ่อกู้ประจำทิศเหนือ หงส์แดงอั้งฮ่องประจำทิศใต้) นอกจากนั้นรูปสลักของท่านได้อัญเชิญมาจากมณฑลฮกเกี้ยนประเทศจีน มีขนาดยาวหน้าตักประ 3 เมตร สูง 5 เมตร มีพักตร์ที่อิ่มเอิบแลดูเมตตา

นี่น่าจะเป็นเชิงเทียนที่ทางศาลเจ้าเตรียมไว้สำหรับ เทศกาลหยวนเซียว หรือ หง่วนเซียว เป็นการจัดงานรื่นเริง การเฉลิมฉลองส่งท้ายเทศกาลตรุษจีน จัดขึ้นในช่วงเดือนอ้ายตามประเพณีจีน วันที่ 15 เดือนอ้ายในปฏิทินจันทรคติ อันเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกหลังผ่านพ้นตรุษจีน หรือ หลังตรุษจีน 15 วัน ปีนี้จะมีการจัดงานในวันที่วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 แต่วันที่เราเดินเล่นเก็บภาพเป็นวันที่ 6 ก่อนจัดงาน เป็นเทศกาลที่มีเพียงปีล่ะครั้ง


ซึ่งเดิมที “เทศกาลหยวนเซียว“ ถือเป็นประเพณีเก่าแก่อย่างหนึ่งของชาวจีน  มีวิวัฒนาการมาจากการจุดประทีปเพื่อการบูชาเดือนดาวในช่วงเดือนอ้าย ตามลัทธิศาสนาดั้งเดิมของจีน ต่อมาเมื่อมีการยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา ประเพณีดังกล่าวได้ถูกผสมผสานเข้ากับคติการจุดประทีปโคมไฟเพื่อเป็นพุทธบูชาในวันมาฆบูชาจึงทำให้กิจกรรมนี้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นเทศกาลหยวนเซียว ตามประเพณีดั้งเดิมของจีนนอกจากการไหว้เจ้าและบรรพบุรุษแล้ว ยังมีการจุดประทีปโคมไฟและมีการจัดงานเทศกาลเที่ยวชมโคมไฟที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงาม ปัจจุบันประเทศจีนและไต้หวันยังมีการจัดเทศกาลแสดงโคมไฟสวยงาม (The Lantern Festival) ในช่วงเทศกาลดังกล่าว นอกจากนี้ในอดีตยังนิยมเล่นปริศนาโคมที่มีการแต่งบทร้อยกรองเป็นปริศนาคำทายประกอบกับโคมไฟในเทศกาลอีกด้วย

ถ้าเป็นวันเทศกาลจริงจะมีนอกจากจุดเทียนแล้วจะมีการไหว้เต่า ซึ่งตามความเชื่อแล้ว “เต่า“ ในวัฒนธรรมจีนชาวฮกเกี้ยน ถือเป็นสัตว์มงคล และ ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืนยาว มีโชคมีลาภ มีความร่ำรวย และ ยังหมายถึงการป้องกันจากภัยอันตรายอีกด้วย แสดงถึงการยืนหยัด ในตำนานสร้างโลกของจีนกล่าวว่า เต่ามีส่วนช่วย ผานกู่ เทพบิดาของชาวจีนสร้างโลก

“ขนมเต่า“ ที่ใช้ไหว้ที่ศาลเจ้าโจซื่อกงจะแตกต่างจากขนมเต่าทั่วไป จะเป็นสีแดงที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวที่ ช้จากเทศกาลสารทจีน แต่เต่าที่นี่จะเป็นเต่าสีขาวที่ใช้ในเทศกาลหง่วนเซี่ยวเท่านั้น หน้าตาเหมือนซาลาเปา ที่ปั้นเป็นรูปเต่า โดยทำจากแป้งสาลี นำเมล็ดถั่วมาติดเป็นตา และ นำเอาไปนึ่งจนสุก จึงนำไปตากจนแห้งก่อนนำเอาซาลาเปาเต่ามาให้ผู้ศรัทธาได้เขียนคำมงคลเป็นภาษาจีน 4 ตัว จึงนำเข้าไปไหว้ในศาลเจ้าโจซื่อกง และ นำกลับไปบูชาที่บ้าน โดยมีความเชื่อว่า “เต่า” จะนำพาความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ ความร่ำรวยมาให้

**ขอบคุณภาพเต่า เราไม่มีอ่ะไปก่อนวันงาน เลยขอยืมเต่ามาจาก FB : Taladnoi


เทศกาลและความเชื่อทางวัฒนธรรมยังไม่หมดแค่นั้น ใครไปตลาดน้อยช่วงเทศกาลนี้ ได้เห็นชาวบ้านเขาทำขนมอีกอย่าง ที่เค้าว่าอร่อยมาก นั่นคือ “ไช้เถ่าก้วย” ขนมผักกาด หั่นเป็นชิ้นๆ เอาไปทอดกรอบๆ ราดซี่อิ๊วหวาน เค้ามีขายให้ได้ชิมด้วยนะ อันเนี๊ยะไม่เคยกินจริงแต่เหมือนเคยเห็นแหละ

“ศาลเจ้าโจซื่อกง”วัดซุ่นเฮงยี่(順興宮) ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

“ศาลเจ้าโจซื่อกง” วัดซุ่นเฮงยี่ (順興宮) เพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

https://alisismaeal.wixsite.com/itourtime/post/ศาลเจ-าโจซ-อกง-ว-ดซ-นเฮงย-順興宮

การเดินผ่านเรื่องราวของตลาดน้อยมีประวัติศาสตร์มากมายที่สืบต่อวัฒนธรรมความเชื่อกันมายาวนาน เป็นเส้นทางที่น่าสนใจ และ น่าค้นหาไม่น้อย ตอนนี้เราก็เดินกันมาถึงจุดหมายแล้วค่ะ “ท่าน้ำภานุรังษี” หรือ จุด Gallery PORTRAIT OF CHAROENKRUNG & BANGKOK DESIGN WEEK 2020

ที่จัดขึ้นในวันที่ 1 - 9 Feb 2020 @Charoenkrung เพื่อแสดงภาพครอบครัวเจริญกรุง ที่เราเดินตามหามาตลอดทาง ซึ่งจริงแล้วเราจะเดินตรงมานี่เลยก็ได้ค่ะ แต่ระหว่างทางมันมีเรื่องราวที่ดึงดูดไม่เชื่อลองไปเดินเล่นตลาดน้อยดูสักครั้งสองครั้ง ถึงงานนิทรรศการจะจบลงแล้วแต่เรื่องราวความเป็นจริงยังคงดำเนินต่อๆ ไป อย่างนั้นจากรุ่นสู่รุ่น สู่ความเจริญที่ยังคงความอบอุ่นด้วยร้อยยิ้มและความจริงใจของผู้คนธรรมดาๆ ที่สามารถแวะไปสัมผัสชีวิตประจำวันที่เข้าถึงได้

มาถึงแล้วก็เข้าไปข้างในกันค่ะ

เค้ามีบันทึกไว้ในหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องความเจริญกรุงสู่ยุคสมัยลูกหลาน ระหว่างเดินชมภาพความอบอุ่นของ “ครอบครัวเจริญกรุง” ก็อ่านเรื่องราวของภาพเล่านั้นเพิ่มเติมในหนังสือพิมพ์หรือสูจิบัตรที่ได้มาจากทางเข้าค่ะ

พี่ๆ ผู้ดูแลงานเค้าแนะนำน้องๆ นักศึกษาที่มาดูงานกันอยู่ เรามาแบบนักท่องเที่ยว เดินดูเองกันเองสบายๆ ดีก่า หลบไปชั้นบนกัน มีหลายชั้นอยู่ ข้างบนน่าจะสงบก่า ไปค่ะ

ขออภัยกล้องเราแคบสุดทางล่ะ ได้แค่นี้แหละ 555555

ขึ้นมาชั้นบนล่ะ ได้ความสงบคืนมา เพราะทุกคนอยู่ข้างล่าง 55 5555 ไปเก็บภาพเงียบๆ กันนะคะ ^ ^

แสงตกกระทบภาพนี้กำลังสวยได้ Feeling ดี

เด็กหญิงขอบหน้าต่าง มุมมองนอกหน้าต่างมันค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ข้างนอกก็วิวสวย แสงเย็นกำลังสาดส่องกระทบผิวน้ำสะท้อนลอดกิ่งใบไม้ เหมือนได้พักสายตา ไปชั้นบนกันต่อเนอะ

สงบ ร่ม เย็น ไป ทั้งใจเลย

ภาพขวา : ร้านเฟิงชู เกี๊ยวเปิดหน้า เราเคยไปกินเดี๋ยวพาเดินไป ทางผ่าน

ผู้คนที่นี่ดูน่ารัก อบอุ่น เป็นกันเองเหมือนครอบครัวเดียวกัน ภาพถ่ายพยายามเปิดกว้างให้มองภาพเจริญกรุงที่เข้าถึงง่าย ชุมชนที่ดูมีอะไร ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ

ข้างล่างเค้ายังโม้กันอยู่เลยค่ะ 555555555 ^ ~ ^

ไปไป… ไปต่อข้างบนค่ะ มีอีกชั้นนึง จำไม่ได้ล่ะขึ้นมากี่ชั้น 5555 5555

มุมมองจากชั้นบน ออกนอกหน้าต่าง

คือ เราอยากรู้เว้ยว่าคนตรงนั้นเค้าถ่ายภาพอะไร มองเห็นภาพอะไรข้างนอก เลยลองถ่ายบ้าง 55 เราว่าน่าจะมองไปที่พระอาทิตย์ที่ภาพตึกด้านบน เค้ากับพื้นและแหงนหน้ากล้องขึ้น คงไม่ได้ยิงมุมลงไปที่เรือและน้ำอย่างภาพล่างอ่ะ แต่มันมีแสงตกกระทบสวยดี ผมชอบแสง 55555 เดินไปขอดูก็จบป่ะอลิศ!!!!!

ก่อนไปขอเก็บภาพอีกนิด ข้างๆ Gallery ก็มีมุมที่น่าสนใจ

ภาระกิจของวันนี้จบลงด้วยดีใจค่ะ เดี๋ยวเราเดินกลับไปหาอะไรกินที่ตลาดกัน ไปดูว่ามีอะไรเหลือให้เรากินได้บ้าง อ่อไม่ลืมค่ะเดี๋ยวจะไปร้านในภาพร้านนึงด้วย พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงมาเรื่อยๆ แดดเย็นก็ยังคงร้อนเบาๆ เราไปหาจุดดูพระอาทิตย์ตกของเย็นวันนี้กันเนอะ ไปคับผม …

ตอนนี้เราเดินกลับออกมาถึงบ้านจีนหลังนึงที่ปิดอยู่ตลอดเวลาที่เคยเดินผ่าน แต่พิเศษวันนี้มันเป็นที่จัดงานอีกจุดนึงที่เรามองข้ามไปก่อนเมื่อตอนต้นเลย 5555 ขอเข้าไปดูหน่อย น่าจะได้ภาพมุมดีๆ กลับออกมาบ้างแหละ

สองภาพแรกที่ได้มา เป็นภาพที่มองออกไปจากชั้นล่างที่เพดานเปิด หรือ หรือจุดไม่มีหลังคานั่นเอง

ภาพที่เห็นก็จะเป็นตึกข้างๆ นั้นเอง ไม่เกี่ยวไรกะนิทรรศการเลยเรา 555555

ขึ้นมาชั้นสอง เราก็จะได้มุมภาพของในบ้านผ่านหน้าต่าง จากอีกฝั่งไปอีกฝากนึง หรือ ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง

เหมือนตั้งใจเข้ามาเดินดูบ้านเลยเรา กลับลงไปชั้นล่างที่เค้าแสดงนิทรรศการกันดีกว่าเนอะ

เราเดินวนอีกทางและกลับมาที่จุดเริ่มต้นล่ะนะคะ ลืมบอกไปว่าตรงนี้แหละทางที่เราเดินตามภาพตอนแรกไปเรื่อยๆ ด้วยความหลงไหลในเรื่องราว (หรือหลงทางกันนะ) จะอยู่ตรงข้ามกะบ้านจีนที่เพิ่งออกมาตามภาพด้านบนละคะ

เถลไถลไปนิดจริงเดินผ่านกรมเจ้าท่ามาแป๊บเดียวก็ถึงตลาดล่ะ เจอล่ะเติมหวานก่อนเลย ขนมค่ะ แต่เป็นขนมคาวๆ นิดนึง เพราะทำจากกะทิ ที่สำคัญเจ้านี้เป็น

ขนมครกกะทิสด “ตำหรับไทย” เจ้าเก่าโรงเจตลาดน้อย ขนมครกกะทิสด สูตรต้นตำรับ กิน ร้อน ๆ หอมกะทิ อร่อยสด อยากกินขนมถั่วแปบสด แต่วันนั้นน่าจะหมดแล้ววว

🥥เวลาที่ได้ยืนดูเค้ากำลังทำ กำลังปรุง ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนม 🍘มันทำให้มีเรื่องราว เหมือนร่ายเวทมนต์ให้น่ากินมากยิ่งยิ่งขึ้นไปอี๊กกก โดนสะกดด้วยของกิน จะอยู่นิ่งๆ ได้พักนึง 5555555

กะทิสดๆ โดนความร้อน หอมมากเลย เริ่มเกรียมล่ะ พอเกรียมก็หอมไหม้ไปอีกแบบ …

เดินไป กินไป … อา ย่อย ตามปกติร้านขนมครกจะขายถึงแค่บ่าย 2 แต่วันนี้พระอาทิตย์จะตกดินล่ะยังขายอยู่เลย ก็นะ ช่วงที่มีเทศกาล หรือ จัดนิทรรศกาล เป็นช่วง high season ของชุมชนเลย

ถึงล่ะจ้าหนึ่งร้านในภาพที่บอก …

FENG ZHU เฟิงจู ร้านเกี๊ยวเปิดหน้า เจ้าดังในย่านตลาดน้อย ที่ใครๆ ก็พากันมาตามรีวิว ส่วนใหญ่เราจะได้มาถึงตอนกลางคืน ได้มากินตอนเค้ากะลังจะปิดร้านตลอด 5555 55

น่าตาก็จะน่ารัก น่ารักประมาณนี้. . เขียนมาเยอะ เริ่มขี้เกียจ มาชิมเองค่ะ แนะนำต้องทานเลยร้อนๆ อร่อย

ส่วนตัวชอบชาอันนี้ด้วย แช่เย็นๆ สดชื่นดีสำหรับตอนเย็นที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ใช้ได้เลยเค้าบอกว่าเป็นชามาจากจีนค่ะ ตอนแรกนึกว่าโค้กภาษาจีน 5555 คือ เราอ่ะชอบชาอู่หลงอยู่แล้วด้วย ไปอีกมุมค่ะมองไปฝั่งตรงข้ามก็ได้จุชมวิวพระอาทิตย์ตกของเย็นวันนี้แล้วค่ะ


FENG ZHU เฟิงจู ร้านเกี๊ยวเปิดหน้า ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

มาถึงจุดชมวิว รับแสง พระอาทิตย์ตกของวันนี้แล้วค่ะ ส่วนตัวนะเราโคตรชอบเลนส์มือหมุนเลย ก่อนที่ภาพตรงหน้ามันจะเป็นภาพที่ชัดเจน เราจะเป็นคนกำหนดมันเอง มันเหมือนกับงาน Handmade ล่ะม้าง

จุดชมวิว รับแสง พระอาทิตย์ตกของวันนี้ อยู่ที่ท่าเรือข้างๆ ห้าง River City Bangkok ที่ติดอยู่กับแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ห้างสรรพสินค้ากลางตลาดน้อย บันทึกการเดินทางนิดนึง

空。2020年02月06日。夜。🔆🥛

サンセット Sunset of day.

アリスの冒険 1日 ☁☁ . . . ● ω ● ♬ ♫

アリスのギャラリー空。

Gallery sky of ALice.

Collection of our life

อีกร้านน่ารักๆ ที่เราหลงเสน่ห์ใน logo ร้านที่ดูมีเวทมนต์น่าหลงไหล ของร้าน “Sweetpista“ ค่ะ เราแค่เดินกันต่อมาอีกทาง Where House 30 ร้านสุดท้ายใน Where House 30 ถ้าเดินเข้ามาจากด้านหน้าหรือเดินมาจากทางห้างเมื่อกี้อ่ะนะ ร้านตกแต่งน่ารักมากก Minimal Style ที่ดูอบอุ่นกับการใช้สีไม้โทนอุ่นตัดกับสีขาว และ ปูนเปือยที่เพิ่มความเรียบง่าย

เมนูน่ารักๆ น่าทานทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก สลัด สลัดแซลม่อนล่ะกัน เสต็กแฮมเบิร์กก็น่ากิน

เมนูของทางร้านจะเน้นเสิร์ฟความอร่อยในเมนูสไตล์ Homemade food and Bakery ที่หลากหลาย

โดยจะพยายามปรุงอาหารให้น้อยที่สุด เพื่อเน้นนำเสนอรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบหลักของจานนั้นๆ

อิ่มแล้วก่อนไปไปรษณีย์กลางกันเราจะเดินกลับไปทางปากซอยทางตลาดกันก่อน ซึ่งจริงเราเดินจากร้านนี้ไปก็ถึงงานตรงไปรษณีย์กลาง แต่เราอยากเดินไปกินโกโก้ปั่นร้านประจำก่อนค่อยเดินไปจากถนนด้านนอกก็ได้ อ้อมๆ ไปหาของโปรดเติมพลังอีกนิดก่อนเดินไปเนอะ


Sweet Pista Bangkok ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^

เดินออกมาปากซอยเจริญกรุง 24 ก็เห็นชัดเลยว่าเราพลาดจุดนี้ไป 5555

ตรงสะพานจะมีร้านบะหมี่ และ Cafe’ อร่อยๆ อยู่ 3 ร้านติดเลยค่ะ เริ่มที่ของคาวก่อนค่ะ “หอเจี๊ยะ ลิ้นทอง” บะหมี่หมูแดง เตี๋ยวคั่วไก่ หมูแดงอร่อยประจำย่านนี้เลยจ้า หมูเน้นๆ

“Baba Mama Kafe’ ร้านนี้ Cake Strawberry อร่อยมากกกกกกกก เลิฟเลย

ร้านสุดท้ายก่อนจะไปไปรษณีย์กลาง ร้านที่ทำให้ต้องเดินอ้อมออกมา ร้านนี้แหละ HOC Cafe’ เป็นร้าน Board Game Cafe’ ด้วยนะ ใครชอบแวะมาเล่นได้ คึกครื้นมากมาย แต่อย่างที่บอกเรามาเพื่อ

น้อง Chocolate แก้วโปรด วิฟครีม หนา หนา นุ่มๆ ที่ทำให้เผลอเลอะปากไม่รู้ตัวเลย ^ ^

Chocolate ร้านนี้ชอบมาก เข้มข้น กะลังดี

นอกจาก Chocolate แก้วโปรดแล้วก็จะมีเมนูน้ำอื่นๆ ด้วย ตามจริงเค้าเน้นกาแฟนะ ที่ร้านบอก เพราะเค้าถนัดกาแฟมากกว่า แต่เราอ่ะเป็นคนแปลกประเภทที่ไม่ดื่มกาแฟเลย ไม่ได้เลย แพ้กาแฟจ้า 555

มี Postcards สวยๆ ให้ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยนะ โดยเฉพาะเราเองเป็นคนที่ชอบ Postcards มากก

House of Commons - BookCafe & Space ติดตามอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^ https://alisismaeal.wixsite.com/itourtime/post/hoc-cafe

ในน้ำเนี๊ยะมีตัวทองด้วยนะเราเคยเจอ น่ารักๆ ตัวลูก 555555

จากร้านเมื่อกี้ก็เดินขึ้นมาทางสะพาน ผ่านร้านนี่นั้น ผ่าน Gallery เรียบถนนมาเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงค่ะ

ถึงแล้วไปรษณีย์กลางยามค่ำคืนที่คึกคักไม่เบากับงาน BANGKOK DESIGN WEEK 2020 ที่จัดขึ้นในวันที่ 1 - 9 Feb 2020 @Charoenkrung ทางด้านหน้าไปรษณีย์กลางก็จะเป็นตลาดที่มีงาน Hand Crafe ต่างๆ ของชุมชน มาแสดง ที่ขาดไม่ได้แน่นอนต้องมีอาหารต่างๆ มาออกบูธรวมกันอยู่ที่นี่ให้ได้เลือกทานกันคะ ไม่พูดมากล่ะไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ

ร้านนี้ดิชอบมากเลยนะ เป็นเครื่องปั้นที่มีรูปทรงประหลาดปิดเบี้ยว ยังกะหุ่นยนต์ เหมือนเมืองหุ่นยนต์ หุ่นกระป๋องของอลิศไง รู้สึกร่าเริง 555555 5555 เวลาเจอโลกที่ชอบ ^ ^

เดินมาสู่ของกินจ้า ต้องรอหน่อย เจ้าทาโกะยากิ เค้า ยังไม่สุก

ยืนดูเพลินเลยร้านนี้ ดูเค้าทำเส้นโซบะค่ะ เป็นร้านโซบะเส้นสด สนใจขึ้นมาเลย ร้าน PHOkitchen เค้าบอกว่าเป็นห้องครัวเล็กๆ ที่ทำอาหารโฮมเม้ดจากผักในสวนที่แม่ปลูก ตามไปทานกันได้นะคะร้านปกติอยู่แถวลาดพร้วาค่ะ แต่ตอนนี้ตามไปดูภาพกันก่อนนะคะว่าน่าทานแค่ไหน

ร้านข้างๆ WONTONZA อีกร้านที่น่าสนใจ เกี๊ยวซ่า กับ ไก่ทอดจ้า

ปลาหมึกย่างเป็นเมนูที่อยู่ทุกที่แต่จะแพงมากถ้าอยู่ติดทะเล หรือแถวทะเลไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 5555

ร้านเจริญพุง ที่คนเยอะแยะจัง

สุดท้ายล่ะ ร้านน้ำผลไม้แม่ค้าน่ารัก

มี mini concert ด้วยนะ

อันนี้คนขายเค้า Present ด้วนะมันคือ หัวใจ สมอง และ ปาก น่ารักเนอะ

ไม่ไหวล่ะง่วงมากเป็นการลง blog ที่พยายามมมาก ที่ลงได้ทีละรูป ค่อยๆ ลงและ เรียบเรียงเขียนมาเรื่อยๆ จนจบ ใครอ่านจนจบ แวะมาบอกกันนะคะ รักเลย วันที่เราเขียนเสร็จงานคงจบลงแล้ว แต่เราก็แค่อยากบันทึกไว้เพื่อแชร์สิ่งที่หลายๆ คนพยายามเหนื่อยกันมา และยังคงพยายามพัฒนาชุมชนกันต่อไป และเพื่อรักษาเรื่องราวดีๆ เอาไว้ เผื่อคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสไปในวันงานได้สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพและคำบรรยายงงๆไปกับเรานะ


ผู้คนที่นี่ดูน่ารัก อบอุ่น เป็นกันเองเหมือนครอบครัวเดียวกัน ภาพถ่ายพยายามเปิดกว้างให้มองภาพเจริญกรุงที่เข้าถึงง่าย ชุมชนที่ดูมีอะไร ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ


ยอมรับว่าเราเคยเดินเล่นที่นี่ค่อนข้างบ่อยตอนปลายปี ได้สัมผัสความรู้สึกดีๆ น่ารักของคนที่นี่ค่ะ แต่อยู่มาวันนึงเราไปเก็บภาพจริงจังกะน้องสาวเพื่อจะเอามาลง blog แต่มีป้าคนนึงทำให้เราสองคนรู้สึกกลัวและจะไม่กลับมาอีก แต่พอมีงานนิทรรศการภาพถ่ายเราก็อยากมา แต่ก็กลัวๆ ไม่เอาดีกว่า แต่ก็มาจนได้เพราะคิดว่าช่วงนี้คนค่อนข้างเยอะคงไม่มีไรน่ากลัวหรอกอลิศ แล้วเราก็เดินผ่านไปตรงหน้าบ้านป้าคนนั้นอีก บ้านล๊อกจ้า สบายใจ คือ เอาจริงๆ ก็ยอมนะว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดี โลกสวย สนใจแค่เดินถ่ายภาพ ไม่ค่อยได้สนใจไรรอบตัว บางทีก็น่ากลัวที่เป็นคนแบบนี้ 55555 ก็พยายามมองรอบตัวด้วยความจริงให้เยอะขึ้น สนใจรอบตัวให้เยอะมากขึ้น เพราะบางทีอันตรายก็อยู่รอบตัวเรา


การผจญภัยในหนึ่งวันของอลิศ 55555555

アリスの冒険 1日 ☁☁ . . . ● ω ● ♬ ♫

空。2020年02月06日。夜。🔆

🔆#sunshinegirl 👩🏻‍🦳 #ontheway

📷#เลนส์มือหมุน Lens Fix 50mm📷⏳

ติดตามอ่านเรื่องราว Street Food ย่านตลาดน้อย เพิ่มเติมได้ในโพสข้างล่างนี้นะคะ ^ ^



256 views0 comments

Recent Posts

See All

Comments

Couldn’t Load Comments
It looks like there was a technical problem. Try reconnecting or refreshing the page.
bottom of page